จ่อระอุแดดขึ้นมาทันที!
กับการประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี Duty free 4 สนามบิน (สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่) ของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.
ที่ล่าสุดประกาศชัดเจนออกมาแล้ว จะเดินหน้าจัดประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบินเป็นแพคเกจเดียวให้สัมปทานแก่ผู้ชนะประมูลรายเดียว หักดิบการประมูลแบบแยกกลุ่มสินค้า (Concession by category) ที่สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเรียกร้อง และไม่แยกประมูลเป็นรายสนามบิน
ล่าสุด องค์การต่อต้านคอรัปชั่นไทยหรือ ACT ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับการประมูลดิวตี้ฟรีในครั้งนี้ในทุกขั้นตอน เพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสและแสดงความจริงใจของรัฐในการจัดรากเหง้าคอร์รัปชั่น
การออกโรงเรียกร้องให้ ทอท.นำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับการประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีก่อให้เกิดคำถามจากทุกฝ่ายว่า เกิดอะไรขึ้นกับการประมูลดิวตี้ฟรีในครั้งนี้ มีพฤติกรรมใดที่ส่อให้เห็นว่า มีความไม่ชอบมาพากลกับการประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีแสนล้านของ ทอท.ครั้งนี้หรือไม่ ?
ทอท.เดินหน้า..ประมูลแพคเกจเดียว
ก่อนหน้านี้ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการทอท.ระบุว่า การประมูลดิวตี้ฟรีที่ให้ผู้ชนะ 1 รายบริหาร 4 สนามบิน เป็นไปตามข้อเสนอของที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมกันพิจารณากับ ทอท. โดยพิจารณาถึงผลประโยชน์ของ ทอท.เป็นหลัก และท้ายที่สุดเห็นว่า การเปิดให้ผู้ชนะประมูลเพียงรายเดียวเข้ามาบริหารดิวตี้ฟรีทั้ง 4 สนามบินเหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ ทอท.กำหนดขายซองทีโออาร์วันที่ 19 มีนาคมศกนี้ ในราคาซองละ 2.5 ล้านบาท ท่ามกลางข้อกังขาของหลายๆ ฝ่ายเหตุใดกำหนดเงื่อนไขไว้สูงลิบลิ่วเช่นนี้
ขณะที่ นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยืนยันว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใด ทอท.จึงยังคงยืนยันที่จะประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีเป็นแบบรายเดียว ทั้งที่หลายฝ่ายจับตาดูอยู่ และก่อนหน้าสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อทอท.และนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนสัมปทานดังกล่าวมาตั้งแต่แรก เพราะเชื่อว่า การให้สัมปทานแบบหมวดหมู่สินค้า (confession by category) น่าจะยังประโยชน์ให้กับ ทอท.มากกว่า
ย้อนรอย.."สัมปทานบิน" ดิวตี้ฟรี!
ในอดีตเมื่อปี 2547 คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้อนุมติให้สัมปทาน Duty free 4 สนามบินนี้ด้วยวิธีพิเศษแก่กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนขั่นแนล ดิวตี้ฟรีฯ (มติบอร์ด ทอท.เมื่อวันที่ 29 มกราคม2547) โดยอ้างเป็นการขยายสัมปทานประกอบกิจการดิวตี้ฟรีเดิม ที่ให้บริการในสนามบินดอนเมืองที่กำลังจะปิดตัวลงในปี 2549 ก่อนย้ายมาใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
ไม่มีใครรู้ว่า เหตุใดการขอขยายสัมปทานร้านปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี ) 4 สนามบิน (สนามบินดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ และภูเก็ต) ในครั้งนั้น ถึงมาลงเอยด้วยการ "กระโดดค้ำถ่อ" ไป "ฮุบ" กิจการดิวตี้ฟรี ในสนามบินสุวรรณภูมิ ของ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐอีกหน่วยงานไปได้ ทั้งที่เป็นคนละนิติบุคคลกัน ไม่ได้เป็นบริษัทลูกของ ทอท.แม้แต่น้อย
กลายเป็น "สัมปทานบิน" ที่จนป่านนี้ ก็ยังไม่เคยมีหน่วยงานใดล้วงลูกเข้ามาขุดคุ้ยให้เกิดความกระจ่าง ก็คงเพราะเหตุนี้ องค์การต่อต้านคอร์รัปชั่นไทย ถึงออกโรงเรียกร้องให้รัฐบาลและ ทอท.ได้นำเอา "ข้อตกลงคุณธรรม" มาใช้กับการประมูลดิวตี้ฟรีที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดการเล่นแร่แปรธาตุใดๆ ได้อีก!
"มัดตราสังส์"..ประมูล 4 สนามบินเพื่อใคร?
แหล่งข่าวในกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์" ว่า การที่ ทอท.ยังคงยืนยันที่จะรวม Duty Free ทั้ง 4 สนามบิน เพื่อจัดประมูลให้สัมปทานเพียงรายเดียวนั้น แม้จะอ้างเหตุผลเพื่อความคล่องตัวและง่ายต่อการบริหาร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้น ส่อจะเป็นการ "ล็อกสเปก" เอื้อให้แก่ผู้ประมูลบางรายเท่านั้น เนื่องจากการกำหนดขอบเขตทีโออาร์ที่ให้รวมพื้นที่ดิวตี้ฟรีถึง 4 สนามบินเข้าไว้ด้วยกัน ย่อมทำให้มีผู้เข้าประมูลได้น้อยราย
ขณะที่หากแยกประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบินนั้น น่าจะทำให้มีผู้เข้าประมูลได้มากราย เพราะสนามบินในภูมิภาคของ ทอท.ไม่ว่าจะเชียงใหม่ หาดใหญ่และภูเก็ตนั้น มีพื้นที่ดิวตี้ฟรีเพียง 1,000-1,200 ตร.เมตร เท่านั้น หากแต่ละสนามบินเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลแข่งขัน ก็เชื่อแน่ว่า จะมีเอกชนหลายรายเสนอตัวเข้าแข่งขันอย่างเข้มข้นแน่นอน
"น่าแปลก ที่ฝ่ายบริหาร ทอท.ออกมาแถลงข่าวสาเหตุที่ไม่แยกประมูลดิวตี้ฟรีแบบแยกสนามบินด้วยเกรงว่า อาจไม่จูงใจให้เอกชนเข้าประมูลแข่งขัน ทั้งที่ในเงื่อนไขประมูลได้กำหนดให้เอกชนที่เข้าประมูลจ้องเสนอผลประโยชน์ตอบแทนแก่ ทอท. ไม่ต่ำกว่าสัมปทานเดิมของกลุ่มคิงเพาเวอร์อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เหตุผลที่ ทอท.จะดั้นเมฆมัดตราสังส์ให้สัมปทานแบบกินรวบเช่นนี้"
ส่วนการแยกประมูลแบบรายกลุ่มสินค้า concession by category ตามข้อเรียกร้องของสมาคมผู้ค้าปลีกไทยนั้น อาจจะก่อให้เกิดความยุ่งยากในการบริหารจัดการตามที่ ทอท.อ้าง แต่การแยกประมูลรายสนามบินนั้นน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่น่าจะทำให้ ทอท.ได้ประโยชน์มากที่สุด และก่อให้เกิดการแข่งขันมากที่สุดด้วย
"แต่เมื่อ ทอท.แสดงท่าทีในอันที่จะให้เอกชนรายเดียวผูกขาดกินรวบสัมปทานดิวตี้ฟรีทั้ง 4 สนามบินเช่นนี้ จึงทำให้องค์กรต่อต้านการคอรัปชั่นฯ แสดงจุดยืนคัดค้านเรียกร้องให้รัฐบาลล้วงลูกลงมาดูโครงการนี้อย่างเข้มงวด"
น่าจับตารัฐบาล ”บิ๊กตู่” ที่ป่าวประกาศจัดการกับปัญหาความไม่โปร่งใสมาโดยตลอด จะมีท่าทีกับเรื่องนี้อย่างไร!