
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.พรรคประชาชน โพสต์ประเด็นร้อน “ขายล็อตเตอรี่ในราคาต้นทุน 70.4 บาท” โดยระบุว่า จากการหารือวันนี้มีประเด็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งคือ ไม่มีเอกสาร ไม่มีรายชื่อเอกชน ไม่ตอบว่าใครเป็นผู้ร่วมค้าสลาก
ซ้ำร้าย ยังจำหน่ายสลากฯ ใน “ราคาต้นทุน 70.4 บาท” แล้วให้ผู้ค้าร่วม “บริจาคเพิ่ม 4.6 บาท” รวมต้นทุนเพียง 75 บาทต่อใบ
ส่วนสมาคมทหารผ่านศึกพิการ ก็ชี้แจงว่า “รวบโควตาไปขายต่อให้บุคคลที่มีความพร้อม” แต่เมื่อถามว่าเป็นใคร นายกสมาคมฯ กลับตอบว่า “จำไม่ได้ แต่เชื่อว่าไม่ใช่ทุนเทา”
นี่หรือคือคำชี้แจงที่คู่ควรต่อผู้ผ่านศึกของประเทศ?

การขายสลากฯ ในราคานี้ ไม่ต่างจากการ “มอบผลประโยชน์” ให้เอกชนแบบแทบไม่ต้องลงทุน เอกชนกำไรเต็ม ๆ แต่ทหารผ่านศึก ผู้เสียสละเพื่อชาติ กลับได้ปันผลน้อยนิดอย่างน่าเจ็บปวด
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีการเปิดเผยว่า “ใคร” คือผู้ได้รับสลากฯ
ไม่มีชื่อผู้ถือโควตา ไม่มีข้อมูลใดที่ประชาชนตรวจสอบได้เลย ทั้งหมดนี้ ผมจำเป็นต้องตามต่อว่า ใครกันแน่ที่มาหากินบนความเสียสละของวีรชนคนผ่านศึก
แต่ก็มีสัญญาณที่ดีอยู่หนึ่งอย่างครับ ท่าน ผู้อำนวยการ อผศ. ท่านนี้ รับปากว่าจะปรับระบบให้โปร่งใส โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้ค้าร่วมรอบใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ อย่างเปิดเผย
รวมถึงท่านรับข้อเสนอหลายเรื่องกลับไปดำเนินการ เช่น การตัดระบบเงินโบนัสผู้บริหาร ทั้งหมดนี้ถือเป็นทิศทางที่ดีถ้าทำได้ตามที่พูด หลังจากนี้ ผมจะติดตามอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้โควตาสลากของทหารผ่านศึก กลับไปอยู่ในมือ “ผู้เสียสละตัวจริง” ครับ

เชือกพันคอ อผศ.
ก่อนหน้านี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้จัดทำรายงานส่งถึงผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และกระทรวงการคลัง ท้วงติงเรื่องโควตาหวย อผศ. (องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก) ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการช่วยเหลือทหารผ่านศึก และมีลักษณะที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นการทุจริตที่ต้องแก้ไขให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อผู้มีสิทธิ์จริงๆ
โดยประเด็นที่ สตง. ท้วงติง ก็คือ.. การจัดสรรโควตาหวย ที่ไม่โปร่งใส และอาจเกิดการทุจริต โดยเฉพาะกรณีที่ อผศ. รับโควตาหวยไปจำนวนมาก แล้วไปขายต่อให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ทหารผ่านศึก หรือครอบครัวที่เดือดร้อนจริง และมีการทุจริตในระบบการจัดสรรสลากฯ
