ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการบอร์ด รฟท. ที่มี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ทำหน้าที่ประธานได้ไฟเขียวสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถและฝึกอบรมบุคลากร) ตามแผนการพัฒนาโครงการรถไฟภายใต้ความร่วมมือของราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถไฟไทย-จีน” พร้อมกับเห็นชอบกรอบวงเงินที่ได้มีการปรับเพิ่มจากเดิมประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยจะเร่งนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากนี้ฝ่ายไทยและฝ่ายจีนมีกำหนดร่วมกันลงนามสัญญาระหว่างที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยช่วงก่อนนี้ได้มีการเริ่มก่อสร้างไปแล้วบางส่วน คือ สัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ที่กรมทางหลวงรับดำเนินการ และสัญญา 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร
ลุ้นลงนามสัญญาที่เหลือในเฟสแรก
ในส่วนความคืบหน้าอีก 7 สัญญาที่ยังไม่ได้ลงนามสัญญาเพื่อเริ่มการก่อสร้างนั้น ส่วนหนึ่งยังรอผลการพิจารณาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อนที่จะให้มีการลงนามสัญญางานโยธากับผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หากไม่มีอะไรมาสะดุดคาดว่าจะสามารถลงนามได้ครบทั้ง 7 สัญญาภายในปี 2562 นี้ครบทั้งหมด
โดยช่วงก่อนนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาก่อสร้างในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) วงเงินรวม 1.79 แสนล้านบาท รวมระยะทาง 252 กิโลเมตร จำนวน 2 สัญญา คือสัญญา 4-2 งานโยธา ช่วงดอนเมือง-นวนคร ราคา 8,626 ล้านบาท สัญญา 4-3 งานโยธาช่วงนวนคร-บ้านโพ ราคา 11,525 ล้านบาท
ต่อมาประกาศอีกจำนวน 4 สัญญาโดยให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจ้ดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2562 และซื้อเอกสารประกวดราคาได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-23 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้แก่ สัญญาที่ 3-2 งานโยธาสำหรับอุโมงค์ (มวกเหล็กและลำตะคอง) ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร ราคากลาง 5,359 ล้านบาท สัญญาที่ 3-3 งานโยธา สำหรับช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 26.10 กิโลเมตร ราคากลาง 12,043 ล้านบาท สัญญาที่ 3-5 งานโยธาสำหรับช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.34 กิโลเมตร ราคากลาง 9,257 ล้านบาท สัญญาที่ 4-5 งานโยธาสำหรับช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร ราคากลาง 11,801 ล้านบาท ส่วนสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ยังต้องรอความชัดเจนของโครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน และสัญญา 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย
ยังได้ตามลุ้นระยะที่ 2
โครงการก่อสร้างรถไฟภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศเส้นทางนี้ ถือได้ว่าผ่านการหารือร่วมกันมากว่า 25 ครั้ง รูปแบบรถไฟความเร็วสูง ใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252 กิโลเมตร และระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร เบื้องต้นพบว่ากลุ่มผู้รับเหมาจากจีนคว้างานโยธาไปแล้วหลายสัญญา. อีกทั้งยังต้องคอยจับตาว่าสัญญาที่เหลือในระยะที่ 2 ผู้รับเหมาไทยจะได้รับงานสักกี่สัญญา วัดบารมีกันว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และบิ๊กรับเหมาชั้นนำของไทยจะสู้แรงบีบและการทุบราคาของทุนจีนได้มากน้อยเพียงใด
โดยรถไฟฟ้าความเร็วสูงโครงการนี้มีศูนย์ซ่อมบำรุงอยู่ที่ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ประมาณ 600 ไร่ และมีสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์รวมการเดินทาง ความจุผู้โดยสาร 594 ที่นั่งต่อขบวน สถานีเด่นๆคือบางซื่อ สระบุรี ปากช่อง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย คาดในช่วงระยะแรกนี้เปิดบริการปี 2566 ตัวรถใช้เทคโนโลยีที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างปลอดภัย
ในส่วนระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ครม.อนุมัติงบประมาณ 751 ล้านบาทไปดำเนินการศึกษาออกแบบแล้วคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 19 เดือน โดยปมปัญหาอุปสรรคที่หลายฝ่ายยังกังวลคือเรื่องการเวนคืนที่ซึ่งกินพื้นที่ประมาณ 2,800 ไร่ วงเงินราว 1.3 หมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะในช่วงระยะที่ 2 ท้ายที่สุดแล้วจะทำได้เร็วหรือล่าช้ายังต้องตามลุ้นเรื่องเปิดให้บริการครบทั้งเส้นทางว่า จะเป็นไปตามแผนหรือไม่กับโครงการรถไฟภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนที่เป้าหมายจะเชื่อมกับจีนผ่าน สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างของจีนใน สปป.ลาว คืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนในเขตประเทศไทยโดยเฉพาะช่วงระยะที่ 2 จะทำได้รวดเร็วแค่ไหน มาติดตามกันต่อไป