ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า ประเด็นร้อนๆ ที่ฉายภาพเบื้องลึกเบื้องหลังการประมูลงานในหน่วยงานราชการของประเทศไทย ที่มีความไม่โปร่งใสส่อถึงการทุจริตคอรัปชั่นได้ชัดที่สุด ได้ถูกโพสต์สดๆ ร้อนๆ โดย ”ดร. มานะ นิมิตมงคล” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
โดยมีสาระที่น่าสนใจ..เป็นเรื่องจริง ชวนให้คิด ที่เกิดจากพ่อค้าหัวใสช่างสรรหาวิธีขายของให้ราชการ..
เรื่องแรก.. ในการประมูลเครื่องพิมพ์อิงค์ เจ็ท ล็อตใหญ่ของหน่วยราชการแห่งหนึ่ง มีเอกชนสองรายเสนอแข่งกัน รายแรกเสนอราคาเครื่องละ 1 บาท รายที่สองเสนอเครื่องละ 0 บาท ทั้งๆ ที่ราคาตลาดและงบประมาณที่รัฐตั้งไว้ตกเครื่องละสามพันกว่าบาท
ที่เขาทำอย่างนี้ ไม่ได้แปลว่าใจดีจึงขายโคตรถูกหรือยกให้ฟรีหรอก เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ที่จะทำให้พ่อค้ามีกำไรเป็นกอบเป็นกำแบบกินยาว คือ ค่าหมึกพิมพ์ที่แพงและสิ้นเปลืองมากเพราะต้องใช้ตามยี่ห้อและรุ่นที่ซื้อตลอดอายุงาน และงานนี้ก็ไม่มีระบุด้วยว่า ต่อไปจะต้องซื้อหมึกราคาตลับละเท่าไหร่ คำนวณแล้ว “คุ้มค่า” กว่ายี่ห้ออื่นหรือไม่
สรุปกรณีนี้ไม่ได้ซื้อใคร เพราะเงิน 0 บาท เท่ากับไม่มีราคาหรือไม่ได้เสนอราคา ส่วน 1 บาท ถือเป็นราคาที่ไม่สมเหตุผลอย่างยิ่ง
เรื่องที่สอง.. เอกชนเสนอลงทุนติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ บนดาดฟ้าอาคารของมหาวิทยาลัย พร้อมอุปกรณ์ให้ “ฟรี” ทุกอย่าง ทั้งแนะนำอีกว่า สามารถให้นักศึกษามาใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการประหยัดพลังงานได้ด้วย
โดยมีเงื่อนไขคือ “ค่าไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยประหยัดได้” หรือลดลงจากที่เคยจ่ายให้กับการไฟฟ้าฯ เท่าไหร่ก็ตาม ให้นำมาจ่ายแก่เอกชนรายนี้แทน เช่น สมมุติว่าเคยจ่ายเดือนละ 8 ล้านบาท เมื่อติดโซล่าร์เซลล์แล้วค่าไฟเหลือ 5 ล้านบาท ก็มอบส่วน 3 ล้านบาทนี้ให้เอกชนไป
แต่สุดท้ายข้อเสนอนี้ล้มไป เพราะถูกตั้งคำถามว่า
1. ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ใครต้องรับผิดชอบ
2. หากมหาวิทยาลัยมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่กินไฟน้อยลงจะคิดอย่างไร เช่น เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศใหม่หรือลดการใช้ลง ใช้หลอดไฟแอลอีดี มีมาตรการเปิดไฟแสงสว่างเท่าที่จำเป็น เป็นต้น
3. จริงๆ แล้วมหาวิทยาลัยได้ประโยชน์คุ้มไหม
4. การให้เอกชนใช้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย มีระเบียบกำหนดไว้อย่างไรหรือไม่
5.จะติดขัดเรื่องการขออนุญาตจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวกับการผลิตหรือจำหน่ายกระแสไฟฟ้าหรือไม่
สองเรื่องนี้คงพออธิบายได้ว่า
บางครั้งอุปสรรคในการจัดซื้อฯ ของราชการ คือ การไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยีและวิธีค้าขายที่เปลี่ยนไป ซึ่งข้อบกพร่องนี้อาจเกิดขึ้นได้สำหรับปุถุชน แต่ที่รับไม่ได้คือพวกที่รู้ทั้งรู้แต่มีเจตนาชั่วร้าย อาศัยความที่เป็นคนในไปชี้ช่องเปิดโอกาสให้คนมาคดโกง คนพวกนี้ต้องจับติดคุก ขืนปล่อยไว้ยิ่งทำให้ข้าราชการดีๆ ทำงานลำบาก