ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อองค์กระดับบิ๊ก อย่างธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ รวมทั้งหน่วยงานเศรษฐกิจในประเทศ ต่างเห็นไปในทางเดียวกัน “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเสี่ยงจะถดถอยหรือรีเซสชั่นในปีนี้”
คาดการณ์ปีหน้าการเติบโตจะลดลงอีก จากปีนี้ที่คาดจะขยายตัว 3% ส่วนปีหน้าขยายหดลงเหลือ 2.5%
ภาพรวมทั้งโลกที่ทรุดตัวดังกล่าว ต้องส่งผลกระทบปัญหาปากท้องชาวบ้านมากกว่าที่ผ่านมาแน่
โดยเมื่อไล่ไปตั้งแต่ตัวทำรายได้หลักกว่าครึ่งของรายได้เศรษฐกิจประเทศ อย่างการส่งออกสินค้าและภาคบริการท่องเที่ยว ก็ยังคงโดนผลกระทบใหญ่จากสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ที่ขยายวงไปสงครามไฮเทค สงครามการเงิน ผสมการเมืองเพื่อชิงความเป็นผู้นำโลกของยักษ์อันดับหนึ่งกับสองของโลก
เกมการค้าที่เปลี่ยนไปจากโลกาภิวัตน์ซึ่งทำให้ภาพรวมเติบโตมาหลายทศวรรษ และหลายฝ่ายเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าถอยหลังกลับไปใช้ระบบกีดกันการค้า เพราะกลัวเศรษฐกิจโลกจะหดตัว
แต่สิ่งนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อสหรัฐอ้างความมั่นคงจากภัยคุกคามจากจีนที่จะแย่งขึ้นเป็นผู้นำ ทำให้เกมครั้งนี้คงจะลากยาวมากกว่าแค่เกมของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่วางหมากลากเกมนี้ไปถึงเลือกตั้งใหม่ปลายปีหน้า
ยังไม่นับรวมเม็ดเงินจากส่วนอื่นที่หวัง จะมาช่วยดันเศรษฐกิจไทยให้ยังโต โดยในส่วนของการใช้จ่ายภาครัฐ ผลจากงบประมาณปี 2563 ที่เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระแรกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กว่างบประมาณซึ่งปกติต้องเริ่มใช้ต้นเดือนตุลาคมปีนี้ ต้องเลื่อนไปเริ่มใช้อีกสามหรือสี่เดือนประมาณต้นปีหน้า
เม็ดเงินจากส่วนนี้จึงไม่ทันช่วยดันเศรษฐกิจ ขณะที่การบริโภคในประเทศ ที่สะท้อนผ่านการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวตซึ่งจ่ายตามการบริโภค แนวโน้มการจัดเก็บส่อขยายตัวต่ำกว่าเป้าที่ตั้ง ดังนั้นการลงทุนจากเอกชน จึงยังไม่ฟื้นตัว เพราะหากไม่มีกำลังซื้อ ทางผู้ผลิตย่อมไม่ขยายการผลิต
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่จะหวังให้เศรษฐกิจไทยยังพอขยายตัวได้ นอกจากการบริโภคในประเทศที่รัฐบาลพยายามโปรยงบประมาณกระตุ้นเช่นให้ออกไปชิมช้อปใช้ ออกไปท่องเที่ยว ก็ต้องหวังรายได้จากภาคบริการท่องเที่ยว กับการส่งออก แม้เศรษฐกิจโลกจะทรุดตัว
ขณะที่หน่วยงานซึ่งบริหารการส่งออกเช่นกระทรวงพาณิชย์ได้วางกลยุทธ์ส่งออกสินค้าและบริการปีหน้าด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่..
1. รักษาและขยายตลาดเดิม อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อาเซียน จีน
2. เพิ่มตลาดใหม่ อาทิ เอเชียใต้ (อินเดีย) ลาตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง
3. ฟื้นฟูตลาดเก่า เช่น ตลาดข้าวในประเทศอิรัก โลจิสติกส์เพื่อส่งออกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จัดตั้งไทยมาร์ทกระจายสินค้าในบาห์เรน
และ 4. เน้นการค้าชายแดนและข้ามแดนมากขึ้น พร้อมผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ อย่างไบโออีโคโนมี่ สตาร์ทอัพ รวมทั้งแผนเร่งด่วนไตรมาสสุดท้ายปีนี้จัดงานกว่า 50 งานกระจายไปในประเทศเป้าหมาย
ด้านกูรูส่งออกมองว่า กลยุทธ์ส่งออกดังกล่าวเป็นมาตรการเดิมๆ ที่ไม่น่าจะได้ผล เพราะเกมการค้าระหว่างประเทศเปลี่ยนไป จากเชื่อมโยงแหล่งผลิตที่มีประสิทธิภาพที่สุดของโลกให้เป็นผู้ผลิตต่อกันเป็นซัพพลายเชนจากทั่วโลกตามการค้าเสรียุคโลกาภิวัตน์ ไปเป็นขยายการผลิตแนวราบและแนวดิ่งในบริษัทในกลุ่มมากขึ้น หรือสร้างสายการผลิตซัพพลายเชนในประเทศหรือโลคอลโปรดักชั่นเยอะขึ้น
ทั้งนี้เพราะการประชุมเจรจาการค้า ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหน แบบพหุภาคีอย่างองค์ค้าโลก หรือแบบทวิภาคีอย่างเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอต่างๆ การเจรจาค่อนข้างจะเถื่อน ไม่มีระเบียบ ไม่เป็นไปตามวาระ รัฐมนตรีการค้ารัฐมนตรีพาณิชย์ที่เป็นหัวหน้าคณะของประเทศต่างๆ มักจะไม่ค่อยมีมารยาท เอะอะโวยวาย โดยเฉพาะการเจรจาแบบพหุภาคีอย่างองค์การค้าโลก เช่นในการประชุมครั้งหนึ่ง มีการโทรไปปลุกรัฐมนตรีคลังขึ้นมากลางดึก เพื่อให้เข้าร่วมประชุม และให้ตอบทันทีว่ากระทรวงการคลังจะยอมลดภาษีขาเข้าสินค้าบางอย่างได้หรือไม่ มีการหลอกล่อ ข่มขู่ บางทีต้องการอย่างหนึ่ง แต่ต้องแกล้งทำอีกอย่าง เหมือนพ่อค้าเจรจากัน เช่นที่ประธานาธิบดีฯ ทรัมป์ทำอยู่ปัจจุบัน
สำหรับปัญหาค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเร็วและมากกว่าประเทศอื่น ทำให้การส่งออกขาดทุนเมื่อเปลี่ยนมาเป็นค่าเงินบาท และกระทบนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ต้องจ่ายแพงขึ้น ปัญหานี้กูรูแนะนำว่า เมื่อการแทรกแซงซื้อดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ เริ่มใช้ไม่ได้ผลในการบริหารเงินบาทไม่ให้แข็งเร็วแข็งมากกว่าประเทศอื่น หากปล่อยเงินบาทให้แข็งเร็วเกินการลดต้นทุนของผู้ส่งออกในเวลาสั้น การส่งออกของประเทศย่อมอันตราย ดังนั้นแบงก์ชาติต้องมาตรการที่รุนแรงกว่าแทรกแซงค่าเงิน เพื่อให้ค่าเงินบาทค่อยๆ แข็งค่า ทุกฝ่ายสามารถปรับตัวได้ทัน และเมื่อค่าเงินประเทศในเอเชียแข็งค่าขึ้นมาใกล้เคียงกัน ก็เลิกมาตรการ
จากภาพรวมทั้งหมด การรับมือโลกทรุดตัวยาวรอบนี้ จึงต้องประสานทั้งภาคการค้า ภาคการเงิน ถึงจะพยุงประเทศให้อยู่รอด ท่ามกลางปัจจัยไม่สามารถควบคุมได้ตามโลกที่ผันผวนมากขึ้น!
โดย-คนฝั่งธนฯ