ระวัง! ถูกหลอกเล่นแชร์ออนไลน์ เผยลงทุนไม่สูง แต่จ่ายล้านเท่าล่อใจ!
เตือนระวัง! แก๊งมิจฉาชีพดิจิทัล หลอกเชิญชวนลงทุนออนไลน์ คลังเผย ยามนี้...“แชร์ออนไลน์” สะพัด พร้อมฉายภาพมีรูปแบบคล้าย “แชร์ลูกโซ่” ระบุ 4 พฤติกรรมหลอกลวง ประกอบด้วย..”ชักชวนให้ลงทุน / เสนอผลตอบแทนสูง/ระยะสั้น – ทำธุรกิจผิดกฎหมาย / ไม่ทำธุรกิจ / ปิดกิจการหากไร้ลูกค้าใหม่” ย้ำหากโดนหลอกแล้ว รีบแจ้ง “ดีเอสไอ - ตร.เศรษฐกิจ - สน.ใกล้บ้าน - สศค.” ด่วน! ก่อนคดีหมดอายุความ
โอกาสมาพร้อมกับวิกฤติ! ยิ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากเท่าใด? อันตรายที่มากับเทคโนโลยีเหล่านั้น ก็ยิ่งมีสูงเป็นเงาตามตัว
ล่าสุด สังคมโลกและสังคมไทย ต่างเผชิญปัญหาที่ไม่ต่างกัน กล่าวคือ การปรากฏตัวของกลุ่ม “มิจฉาชีพ” ที่อาศัย “ดิจิทัล เทคโนโลยี” “อินเตอร์เน็ต” และ “โซเชียลมีเดีย” มาลวงล่อด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ..
เพียงแต่สังคมฝรั่ง ส่วนใหญ่มักจะคิดเยอะ และคิดบนฐานรากความเป็นจริง!...มากกว่าคนไทย โดยเฉพาะกลุ่ม “คนคิดน้อย แต่หวังรวยทางลัด” ด้วยการชวนลงทุนในธุรกิจ “แชร์ออนไลน์” พร้อมกับการยื่นข้อเสนอ “ลงทุนต่ำ แต่รับผลตอนแทนที่สูงมาก” สูงเกินคนปกติธรรมดาจะคิดและทำได้
แต่กลายเป็นว่า...มีคนไทยบางกลุ่ม? ที่ “ละโมบ-โลภมาก” อยากรวยเร็ว ขนเงินไปร่วม “ลงทุน” กับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จนเกิดความเสียหายตามกัน เพียงแต่ตัวเลขที่ระบุไว้นั้น ยังไม่สูงมากนัก เพียงแค่หลัก 30-50 ล้านบาทเท่านั้น
แต่หากนับรวมการลงทุนในกลุ่ม “เงินดิจิทัล” (คริปโตเคอเรนซี่) ที่แข่งกันผุดเหรียญเฉพาะในเมืองไทย เข้าไว้ด้วยกันแล้ว มูลค่าความเสียหาย ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่า...ได้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว เนื่องเพราะเจ้าของธุรกิจยังคงดำเนินกิจการอยู่ เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของธุรกิจ “เงินดิจิทัล” ยังอาจดู “นิ่งๆ” กันอยู่ กระนั้น หากกลายเป็นความเสียหายขึ้นมาจริงๆ แล้ว
เฉพาะกลุ่มเงินลงทุนในซีกของ “เงินดิจิทัล” น่าจะมากกว่า 500 ล้านบาทอย่างแน่นอน!!!
ใครที่ตามข่าวในโลกโซเชียลมีเดีย อาจเคยได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง และได้อ่าน...ขบวนการเชิญชวนให้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ “กองทุนบุญ” “กองทุนพัฒนาชีวิต” “กองทุนวัยเกษียณ-ผู้สูงอายุ” และอีกสารพัดกองทุนฯ ที่อ้างว่าเป็นเงินจาก...อภิมหาเศรษฐีผู้ใจบุญจากนอกประเทศ โอนเงินผ่านแบงก์ขนาดใหญ่หลายแห่งในเมืองไทย
อ้างชื่อ...บรรดานายแบงก์ชั้นนำ เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการของตัวเอง และส่วนใหญ่พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้...ล้วนเป็นกลุ่มคนหน้าเก่าๆ ที่ “แยกกันเดิน ร่วมกันรับประทาน(แ_ก)”.. มีการยื่นข้อเสนอของการร่วมลงทุน ตั้งแต่...20 บาท 50 บาท 100 บาท 200 บาท เรื่อยไปจนถึง 500 บาท 1,000 บาท หรือมากกว่านั้น
แปลกใจที่...ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน มันสูงเกินเงินลงทุนหลายร้อย...หลายพันเท่า พูดง่ายๆ ลงทุน 100 บาท รอรับผลแทนจากการเข้าร่วมลงทุนสูงถึง 100 ล้านบาท ยัน 1,000 ล้านบาท...โอแม่เจ้า! “บ้าไปแล้ว”
แต่แปลกยิ่งกว่า! ก็ขนาดหลอกกันแรงขนาดนี้ ยังมีกลุ่ม “คนคิดน้อยฯ” หลงเชื่อ...โอนเงินไปเข้าร่วมกับคนพวกนี้อีก
ล่าสุด กลุ่มคนรู้ทันแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ อย่าง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในสังกัดกระทรวงการคลัง เพิ่งตื่น! หลังปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้ หากินกันยาวนานเกิน 1 ปี แล้วออกมาเตือนพี่น้องประชาชนให้ระวัง! การถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่
โดย “โฆษก สศค.” นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สศค. ได้ออกหนังสือแจ้งย้ำเตือนอีกครั้งให้ประชาชนระวัง! การถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ โดยคนกลุ่มนี้มักอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังในการถูกชักชวนและถูกหลอกลวงจนสูญเสียทรัพย์สิน ซึ่ง สศค. ได้เน้นย้ำให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
เนื่องจากการชักชวนผู้อื่นเข้าร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ) โดยปัจจุบัน มีบุคคลโฆษณาชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปเล่นแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊ค หรือแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งแพร่หลายในกลุ่มบุคคลที่ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว เช่น กรณีคดีแชร์แม่มณี (ชื่อเหมือนแอปฯของแบงก์ใหญ่สีม่วง) เป็นต้น
โฆษก สศค.ย้ำว่า “ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและอย่าหลงเชื่อกับการชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทําความผิดตามพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินฯ โดยวิธีสังเกตลักษณะของแชร์ลูกโซ่มี ดังนี้
(1) มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุน
(2) เสนอผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น
(3) ผู้ที่ชักชวนประกอบธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ได้ประกอบธุรกิจใดๆ แต่ใช้วิธีการหมุนเวียนเงิน
และ (4) เมื่อไม่สามารถหาสมาชิกมาลงทุนเพิ่มได้ก็จะปิดกิจการหนีไป”
ก่อนจะทิ้งท้ายให้คนไทยได้ขบคิดกันว่า...การชักชวนให้ร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ส่งผลให้สมาชิกที่ร่วมลงทุนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวนมาก
สำหรับประชาชนที่ถูกชักชวนหรือถูกหลอกลวงให้เข้าร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ไปแล้ว และรู้ตัวว่าจะเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของท่าน ขอให้ท่านแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ (เพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความ) หรือส่งเรื่องร้องเรียนมาที่สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สศค. ซึ่ง สศค. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ หากท่านมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามได้ที่ ส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ถนนพระรามที่ 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2169 7128 ถึง 36 ต่อ 153 - 161 หรือศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ โทร. 1359 หรือ ตู้ปณ.1359 ปณจ.บางรัก กรุงเทพฯ 10500 หรือ e-mail 1359@mof.go.th.
เอาเป็นว่า “สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์” ขอร้อง...และร้องขอให้คนไทย ได้โปรดคิดกันเยอะๆ และทำตัวเป็น “คนมือหนัก - ควักเงินยาก” กันสักนิด
สิ่งที่เราคนไทย...โดยเฉพาะกลุ่ม “คนคิดน้อย แต่หวังรวยทางลัด” ควรจะตระหนักรู้กันก็คือ...ไม่มีใครหน้าไหนหรอก ที่จะยอมให้ “เงินเล็ก” (เงินจำนวนน้อย) ขยายตัว (จากการลงทุน) จนกลายเป็น “เงินใหญ่” (เงินมหาศาล) ได้อย่างง่ายๆ กันบ้าง คนพวกนี้...อาศัยภาวะที่เศรษฐกิจ “ตกสะเก็ด!” ผู้คนตกอยู่ภาวะ “เงินขาดมือ” ซ้ำเติมให้เงินขาดมือไปกันใหญ่ ด้วยการสร้างภาพและโฆษณาชวนเชื่อ “ลงทุนน้อย - ได้กำไรงาม” ทั้งที่ความเป็นจริง...สิ่งนี้ไม่มี และไม่เคยมีอยู่จริงบนโลกใบนี้
แต่อาศัย...ความละโมบโลภมากของมนุษย์เป็นทุนเดิม...สร้างและปลุกเร้า “ต่อมกระสันต์” จนผู้คนบางกลุ่มเกิดอาการ “หูหนา...ตาเล่อ” หลงผิดโอนเงินไปร่วมขบวนการ และกลายสภาพเป็น “เหยื่อ” ไปกับเขาด้วย
บนหลักคิดที่อิงฐานรากความเป็นจริง! ลงทุน 100 บาท ได้เงินต้นบวกกำไร รวมเป็น 105 บาท แค่นี้...ถือว่าได้เยอะมากแล้ว ในระบบการลงทุน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ “ซื้อมาขายไป” ที่อาจได้รับเป็น...เท่าตัว หรือหลายเท่าตัว แต่ธุรกิจเหล่านี้...ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
ถึงตรงนี้...ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน แค่...3-5% ต่อปี ก็ถือว่า...เยอะแล้ว และโอกาสเสี่ยงก็ไม่น่าจะสูงอะไรมากนัก เพราะมันอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง! ที่ผู้ชวนให้เข้าร่วมลงทุน ยังพอจะจ่ายเงินต้น พร้อมผลกำไรจากการลงทุน คืนกลับมาได้
เอาเป็นว่า...อย่าปล่อยให้อาการ “ละโมบโลภมาก” ครอบงำ จนต้อง “คิดกันน้อยเกินไป” แล้วกัน และหากเห็นพฤติกรรมการหลอกลวงเช่นนี้ เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว ได้โปรดแจ้งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามรายละเอียดข้างต้น
เราเตือนคุณแล้วนะ!!!