ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้โพสต์เฟสบุ๊คในหัวข้อ ”ภัยจากป้ายโฆษณาข้างทางด่วน!” โดยระบุว่า..ทราบหรือไม่ว่า มีกฎหมาย “ห้ามติดตั้งป้ายโฆษณาฯ ในระยะ 50 เมตรจากเขตทางด่วน” แต่ทุกวันนี้เราทุกคนต่างได้เห็นเหมือนกันว่า มีป้ายขนาดใหญ่โดยเฉพาะ “ป้ายจอแอลอีดี” จำนวนมากสร้างอยู่ชิดสองข้างทางด่วนซึ่งหลายแห่งน่าจะใกล้มากกว่า 50 เมตร โดยไม่รู้ว่าป้ายเหล่านั้นได้รับอนุญาตจาก กทพ. แล้วหรือไม่?การที่กฎหมายห้ามไว้เช่นนี้ เข้าใจว่าเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในสภาพจราจรที่คับคั่งและใช้ความเร็วสูงบนทางด่วน เพราะป้ายโฆษณาที่สวยงามชวนมองย่อมสามารถเบนความสนใจของผู้ขับขี่รถยนต์ไปชั่วขณะไปจากการควบคุมยานพาหนะ ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสเกิดอุบัติเหตุจะเพิ่มมากและรุนแรงขึ้น ยิ่งเป็นป้ายจอแอลอีดีที่กำลังฮิตอยู่ทุกวันนี้จะยิ่งเพิ่มดีกรีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกเพราะมีแสงสว่างจ้า วูบวาบ ภาพประกอบที่เคลื่อนไหวไปมา มีเรื่องราวต่อเนื่องชวนติดตามและมีขนาดใหญ่สะดุดตา เหล่านี้ล้วนดึงดูดความสนใจผู้คนได้มากและนานขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางคืนแม้จะยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมายเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่มีรายงานในสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า 6-9% ของอุบัติเหตุเกิดจากปัจจัยภายนอกที่เบนความสนใจผู้ขับขี่จากการควบคุมรถยนต์ชั่วขณะ เช่น ป้ายโฆษณาข้างถนนยังมีตลกร้ายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาที่ควรทราบกันอีกก็คือ ทั่ว กทม. มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ หรือบิลบอร์ด ที่ “ผิดกฎหมาย” มากถึง 244 ป้าย หรือราวร้อยละ 23 จากทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่ 1,079 ป้าย (ข้อมูลปี 2561) นั่นหมายความว่า เมืองหลวงของประเทศไทยกำลังเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาใหญ่โตจำนวนมากที่ติดตั้งโดย “ไม่ได้ขออนุญาต ลักลอบติดในที่ห้าม หรือก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ขออนุญาตไว้” ทำให้รัฐขาดรายได้จากการเก็บภาษี เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรมในหมู่เอกชนผู้ประกอบการ และยังอาจทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนรำคาญหรือเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุป้ายโค่นล้มเมื่อมีพายุลมแรงได้ตลอดเวลา แต่ปัญหานี้เจ้าหน้าที่กลับทำอะไรไม่ได้!!เรื่องที่กล่าวมาจึงมีทั้งที่เป็นความผิดตามกฎหมาย สร้างความเสียหายต่อรัฐ เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ถึงตอนนี้ผมยังไม่มีข้อมูลที่ระบุได้ว่า มีใครเรียก – รับสินบนหรือจ่ายเงินเป็นค่ามองไม่เห็นกันอย่างไรหรือไม่ แต่เชื่อว่าทุกคนใน กทม. มองเห็นป้ายโฆษณาเหล่านี้ ขณะที่หลายคนตั้งข้อสงสัย หลายคนอาจรู้ปัญหาแต่นิ่งเฉยกันไปเพราะไม่รู้จะทำอะไรได้ แต่ถ้าเรายังทนปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมาย เอาเปรียบสังคมกันต่อไป ยิ่งนานบ้านเมืองจะยิ่งไร้ระเบียบจนกลายเป็นสังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอาเข้าสักวัน!ขอบคุณภาพประกอบจาก th.lovepik.comเอกสารประกอบ:
-กรุงเทพเมืองแห่งป้ายโฆษณา https://www.bltbangkok.com/CoverStory/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2-ป้ายโฆษณา LED จะสว่างจ้าไปถึงไหน https://www.prachachat.net/columns/news-114566-ป้ายโฆษณารกตาเหลือเกิน http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=486602-ตัวอย่างราคาป้ายโฆษณา https://www.thumbsup.in.th/price-of-out-of-home-ads-ปัญหาทางกฎหมายในการควบคุมและจัดการป้ายโฆษณา http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/159270.pdf-พ.ร.บ. การทางพิเศษฯ ม.38 ม.70 http://new.exat.co.th/index.php/th/about-exat/%E0%B8%9E-%E0%B8%A3-%E0%B8%9A-%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%9E.html-https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4411179/ -https://www.psychologicalscience.org/news/motr/are-digital-billboards-dangerously-distracting.html