วงการสื่อสารโทรคมนาคมสุดมึน! เวทีประชาพิจารณ์เกณฑ์ประมูล 5จี กสทช. ล็อคเป้าจัดประมูลตามไทม์ไลน์เดิม อ้างกลัวตกขบวนผู้นำอาเซียน แม้ดีแทคออกตัวแรงเสนอรอดึงคลื่น 3500 MHz มาประมูลควบคู่คลื่น 2600 MHz วงการสื่อสารชี้แล้วจะจัดประชาพิจารณ์ไปเพื่อ..
เวทีประชาพิจารณ์ 5จี เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 หลังเลขาธิการ กสทช.ลั่นดานเลื่อนไทม์ไลน์ประมูลตั้งแต่ยังไม่ทันได้รับฟังข้อคิดเห็น โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นในนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ร่างฯ มีความรัดกุม เพียงพอที่จะจัดสรรคลื่นความถี่อย่างโปร่งใส เชื่อว่ายังมีหลายประเด็นหลายจุด ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งประชาชน ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะเสนอ
อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมาได้ฟังหลายเรื่องมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะความเห็นของภาคเอกชนที่จะขอให้ กสทช. นำไปปฏิบัติ แต่เป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถทำได้ในเวลานี้ เช่น การนำคลื่นความถี่ย่าน 3500 เมกะเฮิรตซ์ มาประมูลพร้อมกันซึ่งคงทำไม่ได้ เพราะยังไม่มีการเรียกคืนคลื่นความถี่จาก บมจ.ไทยคม ที่มีการใช้งานในดาวเทียมไทยคม 5 และการเรียกคืนคลื่นยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 300 วัน
ดังนั้น ความเห็นที่ต้องการให้เลื่อนการประมูลออกไปคงเป็นไปไม่ได้อีกทั้ง กสทช. ได้กำหนดวันประมูลคลื่นความถี่ไว้ชัดเจนแล้ว ยังไงก็ต้องจัดการประมูล ในวันที่16 ก.พ. 2563 การแสดงความคิดเห็นขอให้อยู่บนเงื่อนไขที่เป็นไปได้ 5จีจะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับร่างประกาศนี้ที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์
“ดีแทค” เสนอเลื่อนไทม์ไลน์ประมูล
ขณะทีมผู้บริหารดีแทคที่ออกตัวแรงตั้งแต่ยังไม่ทันได้ขึ้นเวที โดย นายมาร์คุส แอดอัคทูสเซ่น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เห็นด้วยกับการประมูลคลื่นความถี่ 5จี ที่ กสทช.ออกแบบโดยจัดประมูลคลื่นหลายย่านความถี่พร้อมกัน หรือ “มัลติแบนด์” แต่เสนอให้ปรับช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อรอนำคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) มาร่วมประมูลด้วย
ทั้งนี้ ผู้บริหารดีแทค กล่าวว่า ย่านความถี่ดังกล่าวมีคลื่นมากถึง 300MHz สามารถใช้ควบคู่กับคลื่น 2600 MHz และในหลายประเทศคลื่น 3500 MHz ได้รับความนิยมมากกว่ามีอุปกรณ์รองรับมากกว่าและถือเป็นตัวแปรสำคัญของการพัฒนา 5 จี
“หากรัฐบาลต้องการขับเคลื่อน 5จี อย่างจริงจัง ก็ควรรอให้มีการเคลียร์คลื่น 3500 MHz ที่ บมจ.ไทยคม ใช้งานอยู่ ซึ่งจะหมดสัมปทานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในเดือน ก.ย.ปี 2564 ดังนั้นควรรอคลื่น 3500 มาประมูลพร้อมกันซึ่งอาจล่าช้าไป 2-3 เดือน หรือ 6 เดือนก็ได้ แต่มั่นใจว่าไม่กระทบต่อแผนโดยภาพรวมของประเทศ”
ทั้งนี้ ดีแทคได้ยื่นข้อเสนอต่อสำนักงาน กสทช. ให้กำหนดเวลาประมูลใหม่ หรือเลื่อนออกไปอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อรอความชัดเจนคลื่นความถี่ย่าน 3500 เมกะเฮิรตซ์ ที่ถือเป็นตัวแปรสำคัญของความสำเร็จของการพัฒนา 5จี เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5จี จากเดิมที่สำนักงาน กสทช.มีกำหนดประมูลคลื่นดังกล่าวอีกรอบในเดือนส.ค.2563 ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะประมูลครบหรือไม่และราคาใบอนุญาตจะเป็นเท่าไร
ติงราคาตั้งต้นประมูลคลื่นสูงลิ่ว!
นอกจากนี้ ผู้บริหารดีแทคยังเสนอให้ทบทวนราคาเริ่มต้นประมูลคลื่นความถี่ 2600 MHz ที่ กสทช.ตั้งไว้ 1,862 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาตขนาด 10 เมกะเฮิร์ตซ์ ที่ถือเป็นราคาสูงกว่าค่ากลางของสากล ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลงทุนต่อเนื่อง ขณะที่คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นประมูลที่ 12,486 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต ซึ่งเป็นราคาสุดท้ายของการประมูลครั้งก่อนนั้น ก็มีราคาสูงกว่าประเทศอื่นๆ หลายเท่าตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความล้มเหลวในการประมูลได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า กสทช.ควรกำหนดเพดานการถือครองคลื่น 2600 เพื่อป้องกันการบิดเบือนของตลาด และกระจายการถือครองของผู้ให้บริการอันจะทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี 5จี อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความชัดเจนในการจัดการการรบกวนของคลื่นความถี่ในคลื่น 2600 ซึ่งพบว่า คลื่นดังกล่าวมีกองทัพใช้งานอยู่ 20 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้น กสทช.จึงควรให้ความชัดเจนถึงแนวทางการจัดการถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการรบกวนกันของคลื่นความถี่และข้อกำหนดในการใช้งาน เพื่อให้ผู้เข้าประมูลสามารถประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในการลงทุนได้
ส่วนวิธีการประมูลและหลักเกณฑ์การประมูลก็ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบร่างประกาศฯ ที่กำหนดให้ใช้วิธีการประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมๆ กัน (Simultaneous Ascending Clock Auction) นั้นอาจไม่สอดคล้องกับกำหนดตามคุณลักษณะทางเทคนิคของคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้น วิธีการประมูลจึงจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาใหม่ เพื่อให้สอดรับกับคุณสมบัติทางเทคนิคของคลื่นย่านอื่นในอนาคต เพราะการประมูลคลื่น 5จี แตกต่างจากการประมูลคลื่น 3 และ 4 จีที่เน้นการแข่งขันเปิดให้โอปอเรเตอร์เข้ามาแข่งขันด้านราคา แต่ 5จีนั้น แตกต่างออกไป หลายประเทศมองเป็นเรื่องของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน อย่างในมาเลเซียที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการด้านซัพพลายโครงข่าย เพื่อผลักดันให้เกิด 5จี