เจ้าของ “กัลฟ์” แชมป์ “เศรษฐีหุ้นปี 62” แถมพ่วงเพื่อนธุรกิจพลังงานอย่าง “อีเอ” ติด “TOP 5” เผยเหตุ แชมป์ 6 สมัย อย่าง “หมอเสริฐ” เสียแชมป์ เพราะเศรษฐกิจทรุด หุ้นร่วงไม่เป็นท่า แนะจับตา ปี 63 “หน้าใหม่” อย่าง”เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา” มาแรงจ่อแซงโค้ง!
เจ้าของ/ผู้บริหาร จาก บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ทะยานจากอันดับ 2 เมื่อปีก่อน สู่ทำเนียบ “คนรวยหุ้นหน้าใหม่” หรือ “เดอะ นิว” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการจัดอันดับของวารสารการเงินธนาคาร ที่ร่วมมือกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำขึ้นมา โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุชัด! นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กก. และ ปธ.จนท.บห. บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 120,960 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท หรือ 109.84% ซึ่งหุ้นที่สารัชถ์ถือครองมีเพียง 1 บริษัท คือ GULF โดยถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.44%
ล้ม “แชมป์เก่า” ที่เคยยืนยงครองความเป็นแชมป์มาอย่างต่อเนื่องได้ถึง 6 สมัย นับแต่ปี 2556 -2561 อย่าง...นพ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110.64 ล้านบาท รวยลดลง 11,018.68 ล้านบาท หรือ 14.29% อันเป็นผลมาจากราคาหุ้นทุกตัวตกลงอย่างแรง
จากตัวเลขความรวย (มูลค่าหุ้น) จะเห็นว่า...“แชมป์ใหม่” ทิ้งห่าง “แชมป์เก่า” เกือบ 2 เท่าตัวเลยทีเดียว
หันไปสำรวจเศรษฐีหุ้นอันดับที่ 3 อย่าง...นายนิติ โอสถานุเคราะห์ เจ้าของหุ้น บมจ.โอสถสภา (OSP) ที่เพิ่งเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 น่าสนใจตรงนี้ เขาสามารถจะ “อัพเกรด-ตัวเอง” จากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้วมาได้ ชนิด “เกินคาดฝัน” ของบรรดาเซียนหุ้นทั้งหลาย โดยที่นายนิติ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648.61 ล้านบาท หรือ 52.08%
ขณะที่ เศรษฐีหุ้นอันดับที่ 4 ปรากฎชื่อของนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่ขยับจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้นที่นายคีรีถือครองอยู่ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 43,080.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708.42 ล้านบาท หรือ 51.84% เนื่องจากราคาหุ้น BTS และ บมจ.วี จี ไอ โกบอล มีเดีย (VGI) ปรับตัวสูงขึ้นมากจากปีที่แล้ว
สำหรับอันดับ 5 ที่แม้จะตกมาจากอันดับที่ 3 เมื่อปีก่อน แต่ทรัพย์สินในรูปตัวหุ้นของ นายสมโภชน์ อาหุนัย แห่ง บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ก็ยังคงอยู่ในอันดับ “TOP 5” และมีมูลค่ารวม 42,084.25 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท หรือ 0.30%
เศรษฐีหุ้นอันดับที่ 6 ได้แก่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการกลุ่มบริษัท ทีโอเอ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 41,055.30 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 34,162.15 ล้านบาท หรือ 495.60%
ขณะที่ อันดับ 7 และ 8 ตกเป็นของ “2 สามีภรรยา” อย่าง นางดาวนภา และนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ แห่ง บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) (ชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง โดยที่นางดาวนภา ร่วงมาจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว และถือหุ้น MTC มูลค่า 41,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,300 ล้านบาท หรือ 18.13% ส่วน นายชูชาติ ร่วงมาจากอันดับ 4 เมื่อปี 2561 โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 40,841.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,448.98 ล้านบาท หรือ 15.40%
สำหรับอันดับ 9 ได้แก่ นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของ นายอดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ที่เคยอยู่อันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว โดยที่เขาถือหุ้นมูลค่ารวม 32,596.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,677.46 ล้านบาท หรือ 12.72%
สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด กับเศรษฐีหุ้นอันดับที่ 10 ประจำปีนี้ ได้แก่ นายอนันต์ อัศวโภคิน แห่ง บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ตกจากอันดับ 6 เมื่อปีก่อน โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 27,469.19 ล้านบาท ลดลง 5,431.16 ล้านบาท หรือ 16.51%
นอกจากรายชื่อ “TOP 10” อภิมหาเศรษฐีหุ้นไทยแล้ว วารสารการเงินธนาคาร ยังหยิบยกชื่อของ “คนดัง” ในแวดวง “สังคมอภิมหาเศรษฐี” ของไทยอีกหลายคน ที่ติดกลุ่ม TOP 30 มาเปิดตัวให้ได้เห็น
โดยเฉพาะกับคนระดับ...เจ้าสัวเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในปีนี้
โดยทั้งคู่อยู่ในอันดับ 23 และมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองเท่ากัน ที่ 37.38% คิดเป็นมูลค่าก็ราวๆ 10,330.57 ล้านบาท จากการนำ บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (SEG) Holding Company ของกลุ่มสิริวัฒนภักดี ที่ลงทุนในธุรกิจประกัน “อาคเนย์” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ปรากฏชื่อ นายเจริญ และคุณหญิงวรรณา อย่างเป็นทางการในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และน่าสนใจว่า...
ในปีต่อๆ ไป ทั้งเจ้าสัวเจริญ และคุณหญิงวรรณา จะเขย่ง เอ้ย! เขยิบอันดับจาก 23 มาอยู่ใน TOP 20 หรือ TOP 10 ในปีต่อๆ ไปได้เร็วแค่ไหนกัน
ขึ้นชื่อว่า...ระดับ “เจ้าพ่อน้ำเมา” แล้ว หากประสงค์จะติดกลุ่ม TOP 10 หรือมากกว่านั้น คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร? กับนักการเมือง ไม่ว่าจะชุดนี้หรือชุดไหนๆ ก็ตาม