อดีตคนรถไฟโวยแหลก รักษาการผู้ว่ารถไฟฯ ดองเค็มเงินบำเหน็จดำรงชีพคนรถไฟ ทั้งที่บอร์ดรถไฟฯ-คลังไฟเขียวไปตั้งแต่ปีมะโว้ อ้างบ่อจี๊ ทั้งที่ฝ่ายสวัสดิการยืนยันมีแหล่งเงินจากค่าเช่าที่ดินสัมปทานเซ็นทรัลให้แล้ว
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า อดีตพนักงานผู้ปฏิบัติงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร้องเรียน "สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์” ไปยังนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานบอร์ดการรถไฟฯ เพื่อขอให้เร่งรัด การปรับเพิ่มเงินบำเหน็จดำรงชีพสำหรับอดีตผู้ปฎิบัติงานที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี ตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้จ่ายบำเหน็จดำรงชีพในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับแต่ไม่เกิน 500,000 บาท รวมถึงอดีตผู้ปฏิบัติงานรถไฟที่มีอายุเกิน 65 ปี และมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพดังกล่าวด้วย จากกฎกระทรวงเดิมปี 2546 ที่กำหนดจ่ายบำเหน็จดำรงชีพในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนแต่ไม่เกิน 200,000 บาท
ทั้งนี้ การจ่ายบำเหน็จดำรงชีพดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนการจ่ายบำเหน็จตกทอดให้กับทายาทของผู้รับบำนาญมาแบ่งจ่ายส่วนหนึ่งให้กับตัวผู้รับบำนาญเองก่อนบางส่วน เพื่อให้มีเงินก้อนสำหรับใช้ยังชีพในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการรถไฟฯ และกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอเรื่องต่อ คณะรัฐมนตรีพิจารณาไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อปรับปรุงระเบียบการจ่ายสวัสดิการดังกล่าวให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ ไปแล้วตั้งแต่ปี 2558
แต่เนื่องจากมีการปรับปรุงเงินบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มเติมตามกฎกระทรวงปี 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน การรถไฟจึงได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวกลับมาดำเนินการเพื่อปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม โดยได้เสนอเรื่องขึ้นไปยังกระทรวงคมนาคม ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมโดยกองยุทธศาสตร์ได้มีหนังสือ ที่ คค/กยผ.770 ลงวันที่ 30 กันยายน 62 ระบุว่า การพิจารณาปรับปรุงบำเหน็จดำรงชีพดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการรถไฟที่ต้องพิจารณาเบื้องต้นก่อนนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้เคยมีความเห็นและ ครม.ได้มีมติไปแล้วก่อนหน้า จึงสามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาต่อไปได้ โดยไม่สร้างภาระให้กับสถานะทางการเงินให้แก่ รฟท. พร้อมขอให้การรถไฟฯพิจารณาจัดหาแหล่งเงินที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินขององค์กร ซึ่งผลการพิจารณาของฝ่ายการเงินเห็นว่า จะมีแหล่งรายได้จากค่าเช่าที่ดินของการรถไฟฯบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน(สัมปทานกับเซ็นทรัลพัฒนา) ปีละ 1,000 ล้านบาทเศษไปจนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานปี 2570 สามารถนำมาใช้ในกรณีดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่ารถไฟ กลับไม่ยอมเสนอเรื่องดังกล่าวให้บอร์ดรถไฟพิจารณา เพื่อดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบ ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงข้างต้น โดยอ้างว่า ยังไม่สามารถจัดหาแหล่งเงินได้ ทั้งที่ ฝ่ายการเงิน และกฎหมายรถไฟได้เสนอทางออกจากการนำเงินพัฒนาที่ดินรถไฟจากการให้เข่าที่ย่านสามเหลี่ยมพหลโยธินมาใช้ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของการรถไฟให้แล้ว
"เงินบําเหน็จดํารงชีพดังกล่าวถือเป็นเงินเพียงเล็กน้อย เป็นหยาดเหงื่อแรงงานที่มีพนักงานผู้ปฏิบัติงานรถไฟสมควรจะได้รับ แต่ก็มาถูกคนรถไฟด้วยกันเองหักดิบ ไม่ยอมนำเสนอเรื่องไปยังบอร์ด และกระทรวงคมนาคม อดีตพนักงานรถไฟที่รอความหวังเรื่องนี้กว่า 6,200 คน จึงต้องการให้ รมว.คมนาคม และประธานบอร์ดรถไฟ ได้ลงมาดูเรื่องดังกล่าวโดยด่วนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้อดีตคนรถไฟเหล่านี้"