แม้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเริ่มงานก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน ไปแล้วจำนวน 2 สัญญา แต่ยังจ่อคิวลงนามสัญญาอีกหลายสัญญาคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งโครงการช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา กว่า 1.79 แสนล้านบาท และเฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย อีกกว่า 2 แสนล้านบาท เรียกได้ว่า บิ๊กรับเหมาชั้นนำของไทยและของต่างประเทศยังมีโอกาสลุ้นรับงานกันในปีนี้ได้อีกเพียบ
ไล่เรียงกันสำหรับความคืบหน้างานโยธาโครงการรถไฟไทย-จีน สำหรับสัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ราคากลาง 425 ล้านบาท ที่กรมทางหลวงรับไปดำเนินการ ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 74% ส่วนสัญญา 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,350 ล้านบาทงานโยธาคืบหน้าแล้วกว่า 9 %
ลุ้นอีไอเอหลังบอร์ด รฟท. ไฟเขียวจ่อลงนาม
ล่าสุด คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ยังเห็นชอบเพิ่มอีกจำนวน 3 สัญญา ประกอบไปด้วย สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.81 กม. กลุ่มบริษัทชิโน ไฮโดร จำกัด จากจีนเสนอราคาต่ำสุด 8,626 ล้านบาท สัญญา 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. กลุ่มบริษัทไชน่าสเตท คอนสตรัคชั่น จากจีนเสนอราคาต่ำสุด 11,525 ล้านบาท และสัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. กลุ่มบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)เสนอราคาต่ำสุด 9,429 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในวันที่ 16 มกราคม 2563 นี้ รฟท.ยังเตรียมนำเสนอบอร์ดเห็นชอบอีก 3 สัญญา คือ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว (รวมงานก่อสร้างสถานีพระนครศรีอยุธยา) ระยะทาง 13.30 กม. โดยกลุ่มบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด 9,913 ล้านบาท สัญญา 3-3 ช่วงบันใดม้า-โคกกรวด ระยะทาง 26.1 กม. กลุ่มบริษัทไทยเอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรมจำกัด เสนอราคาต่ำสุด 9,383 ล้านบาท และสัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา (รวมก่อสร้างสถานีนครราชสีมา) ระยะทาง 13.69 กม. กลุ่มบริษัท SPTK เสนอราคาต่ำสุด 7,750 ล้านบาท ทั้งนี้หากบอร์ด รฟท. เห็นชอบเรียบร้อยแล้วเมื่อผ่านการรับรองอีไอเอก็สามารถลงนามสัญญาได้ทันที
นอกจากนั้น ยังได้ลุ้นเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด รฟท. ตามมาอีก คือ สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย (รวมงานก่อสร้างสถานีสระบุรี) ระยะทาง 13 กม. ล่าสุดเปิดซองราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า กลุ่มบริษัทบุญชัยพาณิชย์ จำกัดเสนอราคาต่ำสุด เร่งนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดต่อไป นอกจากนั้นสัญญา 3-2 งานก่อสร้างอุโมงค์ลอดภูเขาช่วงมวกเหล็ก-ลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กม. ได้เปิดซองราคาเสร็จเรียบร้อยแล้วปรากฎว่ากลุ่มบริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด 4,279 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำเสนอบอร์ดรฟท. ไฟเขียวได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับสัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันใดม้า ระยะทาง 30.21 กม. และ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม.ขณะนี้อยู่หว่างการพิจารณา คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ง 2 สัญญาภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกเช่นกัน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถนำเสนอบอร์ดรฟท. พิจารณาในเดือนมีนาคม 2563 นี้ต่อไป
ในส่วนสัญญา 4-4 ช่วงเดโป้ที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างการจัดทำนาคากาลงคาดว่าจะสามารถประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือนมกราคมนี้ เช่นเดียวกับสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 11.83 กม. ซึ่งอยู่ในเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอยู่ระหว่างเตรียมหารือกับผู้รับเหมาที่ได้รับงานโครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบินต่อไป
ในส่วนรายการเกี่ยวกับสัญญาของงานระบบอาณัติสัญญาณต่างๆนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาด้านรายละเอียดของสกุลเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการโดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะนัดหารือกับฝ่ายจีนอีก 1 รอบเพื่อหาข้อสรุปโดยเร็วต่อไปก่อนจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบและคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้
มีลุ้นแบ่งสัญญาในเฟส 2
ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย วงเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ยังมีให้บิ๊กรับเหมาชั้นนำของไทยและต่างประเทศได้ลุ้นงานโยธาอีกไม่น้อยกว่า 15 สัญญา โดย รฟท.คาดว่า จะแบ่งสัญญาในวงเงินสัญญาละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุด รฟท.ได้ลงนามจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดไปแล้วเมื่อ 12 ธันวาคม 2561 พร้อมเริ่มงานตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป โดยกลุ่มบริษัทเอเชี่ยนเอนจิเนียริ่งคอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นหลักรับงานไปดำเนินการ ดังนั้นยังต้องใช้ระยะเวลาการออกแบบอีกไม่น้อยกว่า 1 ปี
ช่วงปลายปี 2563 นี้คงจะได้เห็นภาพการออกแบบรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากนั้น รฟท.จะนำเสนอขออนุมัติโครงการตามขั้นตอนต่อไป จึงจะได้ไปลุ้นประมูลในปี 2564 และจะเห็นภาพการก่อสร้างงานโยธาในปี 2565 เป็นต้นไป
ดังนั้น ในปี 2563 โครงการรถไฟไทย-จีนยังเป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจ็กต์ที่กลุ่มบริษัทรับเหมาทั้งรายกลางรายย่อยจะได้ลุ้นประมูลโกยรายได้เข้ากระเป๋ากันต่อเนื่องจากปี 2562 ที่ผ่านมา ส่วนรายไหนจะสู้ประมูลแล้วคว้างานได้มากน้อยกี่สัญญานั้นคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะงานนี้จีนคว้าไปแล้ว 2-3 สัญญา และยังเชื่อว่าจะสู้ประมูลในเฟส 2 และงานที่เหลืออื่นๆตามมาอีกแน่ๆ!