“จุรินทร์” เข้มนำตรวจรับของ รพ.ศิริราช - รพ.เกษมราษฎร์ ติดตามผลการกระจายหน้ากากไปยังโรงพยาบาลรัฐ-เอกชนทุกสังกัด
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 14.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมการกระจายหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่ รพ.ศิริราช โดยมี รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช ให้การต้อนรับพร้อมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามการกระจายหน้ากากอนามัยของศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ซึ่งบริหารจัดการร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์-กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการค้าภายในกับกระทรวงสาธารณสุข ใน 1 วันมีหน้ากากให้บริหารจัดการ 1.2 ล้านชิ้น เพราะหนึ่งเดือนสามารถผลิตได้ 36 ล้านชิ้น โดย 1.2 ล้านชิ้น มีข้อตกลงร่วมกันว่าในส่วนของสถานพยาบาลทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุข โดย อย. จะเป็นผู้รับไปบริหารจัดการ 700,000 ชิ้น และคนไทยทั้งประเทศซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปรวมทั้งกลุ่มเสี่ยงอื่น 500,000 ชิ้น โดยกรมการค้าภายในจะเป็นผู้บริหารจัดการกระจายออกไป
สถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์รวมทั้งผู้ป่วยทั่วประเทศแยกออกไปเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร สถานพยาบาลสังกัดอื่นๆทั้งหมด คลินิก รวม 700,000 ชิ้นต่อวัน
และจะมีการประชุมศูนย์กระจายหน้ากากทุกวันเพื่อให้การบริหารจัดการยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยดูว่า สต๊อกที่ไหนมีเพียงพอสำหรับช่วงเวลาเท่าไหร่ ขณะที่เริ่มขายจะมีการบริหารจัดการรายวันเพื่อแก้ปัญหาให้มีการกระจายให้ทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้ววันนี้มาดูที่โรงพยาบาลศิริราชได้มาส่งแล้วเห็นการบริการการจัดส่งแล้วว่ามีใบส่งออกมาจากโรงงานผู้ผลิตตามคำสั่งของศูนย์กระจายหน้ากากโดยตรงว่าออกมาจำนวนเท่าไหร่ และมารับที่โรงพยาบาลศิริราชไม่ผ่านที่ไหนเลย มาส่งตรงโรงงานผู้ผลิตมายังโรงพยาบาลผู้ใช้โดยตรงโดยมีใบกำกับ เพื่อศูนย์จะได้บริหารจัดการเองได้ และจากนี้ไปจะไปที่โรงพยาบาลเอกชนซึ่งนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนรออยู่ จะมาดูว่าได้มาส่งหรือไม่อย่างไรตามที่ตกลงไว้ กระบวนการเป็นอย่างไรจะมาเจอที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ โดยศูนย์บริหารจัดการ จัดเจ้าที่หน้าโรงงานผลิตก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ไปประจำได้ 2-3 วันหลังหลังการประชุมเพื่อบริหารจัดการ กรณี กล่าวหาเจ้าหน้าที่ ที่มีคำถามนั้นถ้าเกิดเหตุจริงต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ต้องมีข้อมูลการกล่าวแจ้ง ต้องมีข้อมูล ไม่เช่นนั้นจะทำให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ และเป็นปัญหาได้ ถ้าข้อกล่าวว่าว่า หน้าโรงงานมีการเรียกรับเป็นเรื่องจริงส่งมาเลย ตนจะจัดการเองไม่ต้องรอให้ใครจัดการ เพราะตอนนี้มีตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ 2 คนไปอยู่ประจำโรงงานแล้ว และตัวแทนของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมบริหารจัดการด้วย
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบว่าวันหนึ่งผลิตเท่าไหร่ และส่งตัวเลขมาที่ศูนย์กระจายและศูนย์สั่งให้กระจายไปที่ไหนเท่าไหร่ จะบันทึกทั้งหมด ใครจะไปซื้อหลังโรงงานเหมือนที่เคยมีข้อสงสัยอยู่ ผมไม่คิดว่าจะทำได้แล้ว ถ้าใครเกิดไปทำก็ต้องมีความผิดเพราะตอนนี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว เจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะจัดการได้ โดยเป็นไปตามคำสั่งของศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ซึ่งมีอธิบดีกรมการค้าภายในและรองเลขาธิการ อย.เป็นผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นผู้มีอำนาจและตกลงร่วมกันกับตัวแทนโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย มาร่วมประชุมกันและบริหารจัดการร่วมกันดูว่า ที่ไหนขาด มีสต๊อกเหลืออยู่เท่าไหร่ ร่วมกันจัดการกันรายวัน จะเรียลไทม์ที่สุดเท่าที่จะทำได้
รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช กล่าวว่า ขณะนี้ ต้องหาซื้อเพิ่ม ล่าสุดคือศูนย์ประสานงานหน้ากาก กลุ่ม รพ.มหาลัย ไม่ได้สังกัดอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข จึงหาซื้อหน้ากากยากแต่เพิ่งได้รับทราบแผนการส่ง 700,000 ชิ้น ส่งรพ.ศิริราช เป็นที่แรก ยอมรับว่าความต้องการที่นี่เท่ากับแสนชิ้นต่อสัปดาห์ แต่จะได้มา 90,000 ชิ้น ณ ตอนนี้ และจะติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ต้องหวังพึ่งศูนย์กระจายหน้ากาก เพราะหาซื้อที่อื่นไม่ได้ ทราบว่าศูนย์ต้องบริหารจัดการรายวัน มี รพ.รามาเป็นศูนย์กลางประสานระหว่าง รพ.มหาลัยด้วยกันทั้งหมด และหลังจากนี้ การตรวจรับตอนส่งหน้ากากรายวันข้อมูลจะถูกส่งไปที่ศูนย์ทันที
ตอนนี้ศิริราชมีใช้ได้อีก 3 สัปดาห์ ถือว่าเสี่ยงแต่หลังจากที่ได้การจัดสรรวันนี้เป็นต้นไป ก็ช่วยบรรเทาลงได้ ยืนยันว่า ศิริราชไม่ได้ให้หน้ากากกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน แต่เฉพาะสายงานที่สัมผัสผู้ป่วยโดยตรง นอกนั้นจะให้หน้ากากผ้าที่ซักได้กับบุคลากรอื่น สำหรับกลุ่มเสี่ยง ศิริราชอยู่ที่ 15000 คน รวมแพทย์และนักศึกษาแพทย์ ตัวเลขที่ขอจึงไม่ได้โอเวอร์ เกินไป รพ.มหาวิทยาลัย cross check กันเองได้ ไม่ได้พยายามกักตุนเพราะเข้าใจสถานการณ์
และขณะนี้ 15.20 น. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า การกระทรวงพาณิชย์ กำลังตรวจติดตามโรงพยาบาล เกษมราษฎร์ สาขาบางแค เพื่อตรวจการกระจายหน้ากากอนามัยสู่บุคลากรทางการแพทย์ในส่วนของหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน
รายงานแจ้งว่า นับแต่เกิดเหตุการณ์ ระยะแรก กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการจัดสรรจากศูนย์กระจายหน้ากากรายวันเพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลแต่ไม่ถึงพอ ไม่ทั่วถึง เนื่องจากระยะนั้นศูนย์จัดการหน้ากากอนามัยนำมาจากโรงงานเพียง ครึ่งหนึ่งเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นการที่โรงงานกระจายสู่ตลาดตามกลไกปกติ แต่นับจากวันที่ 4 มีนาคม 2563 นายจุรินทร์ในนามของศูนย์บริหารการกระจายหน้ากาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการอยู่ร่วม ประกาศนำมาบริหารจัดการทั้งหมดวันละ 1.2 ล้านชิ้น ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหากรณีความจำเป็นต่อบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนทางนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย จะได้เร่งณรงค์เรื่องหน้ากากผ้าหรือหน้ากากทางเลือกที่สามารถซักได้ใช้สำหรับบุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงทดแทนได้ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (6 มีนาคม 2563) เป็นวันแรกที่ขบวนรถในโครงการธงฟ้าราคาประหยัดวิ่งขนหน้ากากอนามัยไปขายให้ชาวบ้านในจุดต่างๆที่นัดกันไว้ล่วงหน้าหลายจุด เช่น บริเวณท่าน้ำนนท์ ซึ่งชาวบ้านมาเข้าคิวรอแต่เช้า แต่รถขายหน้ากากอนามัยมายังจุดนัดหมายช้า 2-3 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ระยะทางจากกระทรวงพาณิชย์มาถึงท่าน้ำนนท์ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง
แต่มีการอ้างว่า รถต้องวิ่งไปรับหน้ากากอนามัยที่บริเวณถนนพุทธมณฑล ทำให้มาถึงท่าน้ำนนท์ช้า ทำให้ชาวบ้านบางคนถอดใจไม่รอซื้อหน้ากากอนามัย อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่รอซื้อต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า สามารถซื้อหน้ากากอนามัยได้น้อยหรือซื้อได้เพียง 4 ชิ้น ๆ ละ 2.50 บาทเท่านั้น จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้ามาหาทางแก้ปัญหา ซึ่งในจุดขายหน้ากากอนามัยอื่นๆ ก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน