ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน กสทช.ได้จับกลุ่มวิพากษ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 เนื่องจากมีรายงานว่า กรรมการ กสทช.บางคน ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งเป็น 1 ในประเทศกลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 8 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่ยอมตรวจวัดอุณหภูมิตามที่สำนักงาน กสทช.จัดไว้ ทั้งยัง ไม่ยอมกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสตาม ประกาศของสำนักงาน กสทช. ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 63 สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลกำหนดและให้คำแนะนำ โดยให้พนักงาน กสทช.ที่เดินทางไปต่างประเทศระหว่างวันที่ 11 ก.พ. - 19 เม.ย. 2563 เมื่อกลับมาต้องไปตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังโควิด-19 และให้รอผลโดยใช้สิทธิ์ลากิจ หรือลาพักผ่อน หรือลาป่วย และได้ออกประกาศ กสทช.ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2563 เพิ่มเติม หากผู้ใดฝ่าฝืนแจ้งข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ หรือปิดบังข้อเท็จจริงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงาน กสทช. เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงนอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.ยังได้จัดพื้นที่ตรวจวัดอุณหภูมิผู้มาปฏิบัติงานและผู้มาติดต่องานที่สำนักงาน กสทช. ก่อนเข้าอาคาร ซึ่งรวมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิระดับผู้บริหารทุกคนด้วย แต่กลับมีรายงานว่ากรรมการ กสทช.ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงรายดังกล่าวกลับไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส จนทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เข้าร่วมประชุม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน กสทข.ต่างผวาเกรงจะติดเชื้อไวรัส โควอด-19 ขึ้นมา หากกรรมการ กสทช.รายดังกล่าวเกิดติดเชื้อขึ้นมาอนึ่ง ก่อนหน้านี้ มีการรายงานข่าวว่า มีรัฐมนตรีและส.ส.บางคนเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด19 แต่ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน