เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 “วรวรรณ ธาราภูมิ” ได้โพสต์เฟสบุ๊คเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด 19 ของรัฐบาลที่กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน โดยระบุว่า..นายกมาถูกทางแล้ว!ถูกทางอย่างไร?ก็ตรงที่ให้นักการเมืองถอยไปไกลๆ แล้วใช้แพทย์ใหญ่มานำทางความคิดก่อน จากนั้นนายกจึงสั่งการสาธารณสุขและทุกฝ่ายให้ทำตาม มาถูกทางอย่างนี้แล้วความเชื่อมั่นว่าจะตรึงโคขวิดได้ ก็จะตามมา ตรงนี้สำคัญมาก มากกว่าอะไรทั้งสิ้น อย่างนี้จึงจะได้รับคำชี้แนะที่ถูกหลักวิชาแพทย์ แล้วนำไปวางแผนกับองคาพยพอื่นๆ ในกลไกรัฐ เพื่อสั่งการให้ปฏิบัติต่อไปได้เวลานี้ไม่ใช่เวลาการเมือง และการที่เราได้เห็นผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามทางการเมืองกับรัฐบาล มาแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาโคขวิดโดยไม่ได้อิงการเมือง เรารู้สึกมีความหวัง รู้สึกเชื่อมั่นในคนไทยทุกหมู่เหล่าแล้วทำไมดูภาพแล้วถึงมีความหวังเมื่อใกล้บ่ายของวันที่ 16 มีนาคม 2563 มีการประชุมนัดแรกของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีนายกเป็นประธาน นายกกำลังนั่งคุยกับคณะบุคคลในภาพคณะบุคคลนี้คือกลุ่มแพทย์มือครูที่สร้างแพทย์ไทยให้ประเทศนับหมื่นชีวิต อาจารย์แพทย์ในรูปนี้คือ1. ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดี ม.มหิดล และอดีต รมว.ก.สาธารณสุข 2. ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ อดีต รมช.ก.ศึกษาฯ3. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์4. ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ และ นายกแพทยสมาคม5. ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภานายกได้เชิญอาจารย์แพทย์เหล่านี้อย่างเร่งด่วน เพื่อขอคำปรึกษาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคขวิดพวกเขาไม่ใช่แค่บรมครูของหมอทั้งประเทศ หากแต่ยังมีชื่อเสียงระดับโลกด้านวงการแพทย์อีกด้วย นี่จึงเป็นที่มาของมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ที่ออกมาหลังจากนั้น โดยเฉพาะการประกาศไม่ให้สงกรานต์ 13-15 เมษายน เป็นวันหยุด ซึ่งมันมีความหมายอย่างมากต่อการหยุดแพร่ระบาด เพราะมาตรการนี้จะช่วยให้เกิดการหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายคน อันเป็นอีกปัจจัยของการกระจายไวรัสก่อนหน้าภาพนี้จะออกมา ศ.นพ.ยง ที่เป็นหนึ่งในวงประชุมนี้ เคยออกมาให้ความเห็นถึงโควิด-19 ว่า"เราจะหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายของประชากรได้อย่างไร ปีนี้ขอโยกย้ายปีใหม่ของไทย ในช่วงสงกรานต์ ให้ไม่เป็นวันหยุด แล้วเมื่อโรคสงบแล้ว ค่อยหยุดชดเชยให้ทดแทนช่วงที่มีการระบาดของโรค ถ้าเป็นเช่นนี้ทุกคนจะต้องยอมรับ สังคมเราก็น่าจะยอมรับได้ อีกประการหนึ่ง social distance การรวมกันของคนหมู่มาก ทุกคนจะต้องเข้าใจ ว่าจะเป็นแหล่งของการกระจายโรคอย่างรวดเร็ว (super spread) งานสังคมจำเป็นที่จะต้องงด การจัดประชุมวิชาการก็ต้องหาทางออกด้วย tele-conference สนามมวย การแข่งขันกีฬาต่างๆ โรงเรียนกวดวิชาก็จะต้องปิดการสอน เพื่อลดการระบาดของโรคให้ได้"เห็นภาพนายกกับอาจารย์แพทย์ระดับนี้แล้วพวกเราสบายใจได้ เพราะแม้โคขวิดยังจะขวิดเราต่อ แต่เมื่อนายกมาถูกทาง รับฟังทุกอย่างจากอาจารย์แพทย์มือหนึ่งของประเทศด้วยการให้เกียรติในความสามารถและประสบการณ์ของพวกท่าน แล้วนำไปสั่งการอย่างบูรณาการต่อ เราก็รู้ได้ว่าเรามีหวังแล้วดังนั้น สิ่งที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันก็คือ “ทำตาม” เหมือนเล่นชักกะเย่อ ที่เมื่อผู้นำโบกธงลงแต่ละครั้ง เราทุกคนก็ดึงเชือกพร้อมกัน ฮึบ ฮึบ ฮึบ ไม่ใช่ดึงกันคนละทีสองทีเพราะเราเชื่อได้แล้วว่าทุกมาตรการจากรัฐบาลที่เสนอออกมาเพื่อควบคุมไวรัส มันต้องถูกคัดกรองจากคนมีความรู้มีความสามารถมาแล้วไม่ว่าท่านผู้อ่านจะมีความชอบ ความชัง ต่อฝ่ายใดก็ตาม ณ วันนี้ เรากำลังลงเรือลำเดียวกัน ร่วมชะตากรรมไปด้วยกัน หากท่านทำตามมาตรการรัฐ แต่ข้าพเจ้าไม่ทำเพราะไม่ชอบรัฐบาล เราทั้งหมดก็ผ่านพ้นพายุร้ายนี้ไปไม่ได้.ช่วยกันเผยแพร่ข่าวนี้ แชร์ต่อกันมากๆ แล้วปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลที่ผ่านอาจารย์แพทย์มาแล้ว เพื่อประคับประคองชีวิตและสวัสดิภาพของเราทุกคน ทุกสี ทุกกลุ่ม ให้อยู่รอดได้เถิดค่ะ#โคขวิด ขวิดทุกสีวรวรรณ ธาราภูมิ17 มีนาคม 2563(เขียนโดยใช้ข้อมูลมาจากบทความ จากภาพนี้เราจะรอด)