พลันที่ ครม.ลุงตู่ มีมติอัดยาแรงไฟเขียวพ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท “ผศ.ดร.พงษ์ชัย อธิคมรัตนกุล”ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ค โดยระบุว่า..จากข่าววันนี้ (7 เมษายน 2563) ที่นายกฯ และ ครม. มีมติจะออก พรก.เงินกู้วงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท..ทำให้อาจารย์ย้อนคิดถึงโพสต์สัปดาห์ก่อน ที่บอกทุกคนไป เรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโควิด น่าจะรุนแรงเหมือนตอนต้มยำกุ้งปี 2540..โดยหากเปรียบเทียบตัวเลขวงเงินกู้ต่างๆ..จะสามารถสรุปเรื่องสำคัญๆ ดังนี้..1. ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะในประเทศอยู่ 6.838 ล้านล้าน และมีหนี้สาธารณะต่างประเทศอยู่ 0.189 ล้านล้าน รวมเป็นหนี้สาธารณะสุทธิ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 อยู่ที่ 7.0279 ล้านล้านบาท..2. วันนี้ทราบว่า ครม.อนุมัติ พ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับรวม 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อมาแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทั้งด้านการเยียวยาประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ..3. หากคิดเป็นการสร้างหนี้สาธารณะกับวิกฤตครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการกู้เงินมหาศาลเลยทีเดียว เพราะคิดการกู้สร้างหนี้สะสมเพิ่มขึ้นถึง 27%.. ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 8.9279 ล้านล้านบาท..4. หากเทียบกับสัดส่วนจำนวนเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท กับมูลค่าจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศที่ 17.462 ล้านล้านบาท..ก็เท่ากับว่าการกู้เงินครั้งนี้มากถึง 10.88% ของ จีดีพี ซึ่งในภาพรวมจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 40.24% ในปัจจุบัน ขึ้นมามากเป็น 51.12% ในอนาคตเลยทีเดียว..5. และหากเปรียบเทียบกับตอนวิกฤตต้นยำกุ้งปี 2540..ตอนนั้นประเทศไทยต้องกู้เงินจาก IMF จำนวน 17.2 พันล้านเหรียญ (แต่กู้จริงขณะนั้น 14.2 พันล้านเหรียญ)...หากเปรียบเทียบการกู้เพื่อสู้กับวิกฤตโควิดครั้งนี้ 1.9 ล้านล้านบาท ก็จะเท่ากับการกู้เงินถึง 57.575 พันล้านเหรียญ (คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 เหรียญเท่ากับ 33 บาท)..หรือมากกว่าครั้งต้มยำกุ้งถึง 3-4 เท่าเลยทีเดียว....จะเห็นว่า..วิกฤตโรคระบาดโควิด19 ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก..อาจารย์ไม่อยากเห็นพวกเราทุกคนประมาทกันนะครับผม.. สัญญาณเงินกู้ของรัฐบาลที่ส่งมาวันนี้..เป็นการกู้ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เศรษฐกิจของเราอาการหนักเลย.." .. พวกเราต้องเริ่มเปลี่ยนเข้าโหมดไม่ประมาทกันนะครับผม.. อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ก่อหนี้ หรือหากยังมีหนี้ ก็พยายามจบหนี้เร็วๆ กันนะครับ