กลุ่มทุนไทย-ญี่ปุ่นร่วมลงขัน ตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรก ของจังหวัดอุบลราชธานี หวังปักธงแจ้งเกิดการลงทุนรองรับเศรษฐกิจชายแดน-อินโดจีน
นายณัฐวัฒน์ เลิศสุรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุบลราชธานีอินดัสตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับ บริษัท ไคไกแอดไวซอรี่ จำกัด, บริษัท เวลเนสไลฟ์โปรเจ็ค(ไทยแลนด์)จำกัด และบริษัท เอเชี่ยนไดนามิค คอมมวินิเคชั่น จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วม (MOU) เพื่อจัดตั้ง "นิคมอุตุสาหกรรมอุบลราชธานี" ขึ้น เป็นแห่งแรกในจังหวัดอุบลราชธานี โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2563 กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2565
โดยนิคมฯ ดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2,300 ไร่ ในตำบลนากระแซง และตำบลทุ่งเทิ่ง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เงินลงทุนราว 2,700 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่หลากหลายทั้งในจังหวัดอุบลราชธานีและอีสานใต้ อาทิ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป,อุตสาหกรรมเทคโนชีวภาพ, อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวข้ามแดน, อุตสาหกรรมการบริการ, อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ, อุตสาหกรรมเครื่องมือและยานยนต์ที่ใช้ในการเกษตร
ชูจุดเด่นเชื่อมโยงสามเหลี่ยมมรกต
นายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมมอุบลราชธานี นอกจากจะเป็นการยกระดับจังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องข้างต้นแล้ว นิคมฯ แห่งนี้ยังมีบทบาทในฐานะเป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติกส์อันทันสมัยที่พรั่งพร้อมไปด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ และแหล่งรวบรวมนวตักรรมใหม่ๆ จากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกด้วย
"จังหวัดอุบลราชธานี เป็น 1 ในจังหวัดเขตอีสานใต้ที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพ มีความเหมาะสมสำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพราะนอกจากมีประชากรกว่า 1.8 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ไม่รวมประชากรในจังหวัดอีสานใต้โดยรอบอีกกว่า 10 ล้านคน ถือเป็นฐานด้านแรงงานสำหรับทุกอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้"
นอกจากนี้ นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว จะเป็นฐานการเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมมรกต (กัมพูชา, สปป.ลาว และเวียดนาม) ที่นักลงทุนจะสามารถกระจายสินค้าจากเซียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย
นิคมฯ อุบลเล็งจ้างงาน 20,000 คน
นายณัฐวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า โครงการจัดตั้งนิคมอตุสาหกรรมได้รับความร่วมมือจากองค์กรทั้งสี่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงทุนโดยตรง จากบริษัทภายในและต่างประเทศ จึงถือเป็นโครงการตัวอย่างในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แท้จริง เพราะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภายในท้องถิ่น กระตุ้นการจ้างงาน และรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่สามารถสร้าง มลูค่าการลงทุนให้กับภูมิภาคได้อีกเป็นจำนวนมาก
โดยเชื่อว่า ภายหลังการพัฒนานิคมอตุสาหกรรมอบุลราชธานีขึ้นมา จะกระตุ้นให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจในเขตนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดการสร้างงานราว 20,000 อัตรา ได้ภายในปี 2565
ชูศูนย์กลางเทคโนโลยีเกษตรชั้นสูง
ทางด้านพันธมิตรร่วมทุนจากญุี่ปุ่น นายโทชิยูกิ อาเบะ และนายไดสุเกะ ซาโตะ ระบุว่า ต้องขอบคุณคณะผู้บริหารบริษัท อุบลราชธานีอินดัสตี้ ที่ให้โอกาสเรามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการนี้ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมกระบวนการด้านโลจิสติกส์แล้ว ยังถือว่าเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างนานาประเทศในภูมิภาคอาเชี่ยน
"เราเชื่อว่านิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานี จะถูกพัฒนาเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเกษตรขั้นสูง ที่จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้กลายเป็นผู้นำด้านเกษตรกรรมอันทันสมัย และเรามีความภาคภูมิใจที่ได้ส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยพัฒนานิคมฯแห่งนี้ ให้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย"
ภูมิหลัง"อุบลฯ อินดัสตี้"... ทุนใหญ่เมืองอุบลฯ
พลันที่มีการเปิดโปรเจคลงทุนขนาดใหญ่ “นิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานีแห่งแรก” ภายใต้การขับเคลื่อนโครงการบิ๊กบึ้มของบริษัท อุบลราชธานีอ้นดัสตี้ จำกัด ที่มี ”ณัฐวัฒน์ เลิศสุรวิทย์” นักธุรกิจหนุ่มเลือดใหม่ หรือ Youngblood ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับแวดวงการลงทุนในพื้นที่อีสานใต้และในระดับประเทศในทันที
โดยนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานีแห่งนี้ บริษัทฯ ได้จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการขาย โกดังจัดเก็บสินค้า พื้นที่โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้าและพื้นที่ให้เช่า พร้อมติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัย ตลอดจนรองรับระบบอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการดำเนินงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ที่สำคัญในส่วนของนักลงทุน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่แห่งนี้ นอกจากจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI แล้ว บุคลากรและผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ยังสามารถขอรับสิทธิทางภาษีและเงื่อนไขพิเศษในการลงทุนจาก BOI ได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้คาดว่า จะมีการเปิดตัวกลุ่มนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ที่สนใจเข้าไปลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานีแห่งแรกในเร็วๆ นี้!