หากเอ่ยชื่อ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ขึ้น ในวงสนทนา หลายคนอาจส่ายหน้าไม่รู้จัก หรือไม่คุ้นชื่อ
แต่หากจะบอกว่า BAM นั้น 1 ในองค์กรของรัฐที่มีบทบาทในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ของระบบสถาบันการเงิน ที่จัดตั้งขึ้นมาเมื่อกว่า 20 ปีก่อน เพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ (BBC) และสถาบันการเงินอื่นๆ ของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 แล้ว..บางคนอาจถึงบางอ้อ!
วันนี้ BAM ผ่านร้อนผ่านหนาวมากกว่า 20 ปี และสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพต่างๆ เหล่านั้นจนหลายธุรกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
และวันนี้ BAM ไม่เพียงจะทำหน้าที่ขายสินทรัพย์ และบริหารสินทรัพย์เหล่านั้น แต่ยังสยายปีกขยายกิจการจนสามารถระดมทุน เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารจัดการ รวมทั้งล่าสุด อย่างวางเป้าหมายที่จะกรุยทางไปสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อีกด้วย
20 ปีของ BAM วันนี้เป็นอย่างไร "เนตรทิพย์ ออนไลน์" มีโอกาสไดด้พูดคุยกับ "สมพร มูลศรีแก้ว" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ หรือ "แบม" มีเรื่องราวที่น่าสนใจ..
20 ปี BAM... สาง NPA 2.17แสนล้าน
"ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ทำหน้าที่ แก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศ โดยสามารถรับชำระจากการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายสินทรัพย์มากกว่า 215,000 ล้านบาท และสามารถปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าได้กว่า 111,000 ราย คิดเป็นภาระเงินต้น 217,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสามารถคืนเงินให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 75,000 ล้านบาท" ....ปรารภแรกของอดีตลูกหม้อมือดีของ BAM ”สมพร มูลศรีแก้ว” ที่ปัจจุบันนั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้แย้มกล่าวกับเรา
พร้อมกับย้อนรอยเส้นทางของ BAM ว่า ช่วงที่คลังจัดตั้ง BAM ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินที่ได้รับจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 นั้น ขุนคลังในสมัยนั้น ได้ให้นโยบาย หรือ ”โจทย์หินสุดไว้” เอาไว้เพียง 2 ข้อ คือ..
1.หาเงินเอง..และ
2.ห้ามขาดทุน
“บรรยงค์ วิเศษมงคลชัย” ประธานคณะกรรมการการจัดการ BAM เล่าให้ฟังว่า 15 ปีก่อน ตอนนั้นมีพนักงาน 800-900 จะต้องทำแผนเลิกจ้างรายปีๆ ละ 100-200 คน ตามภารกิจที่หมดลง ขายสินทรัพย์ออกไปได้ คือ ขายได้ดี ไม่ได้โบนัส รางวัล แต่จะได้ซองขาวแทน ทุกสิ้นปี พนักงานจะลุ้นซองตัวเองว่า ได้แบบไหน เพราะ พนักงานเป็นพนักงานชั่วคราว ปีต่อปี ถ้าได้ซองบาง ก็รอดตัว ในนั้นจะเขียนชื่นชมไป
“แต่ถ้าได้ซองหนา หมดสัญญาจ้างครับ”
หากเกาะติดผลงานของ BAM ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า เราสามารถยืนอยู่บนขาตัวเองได้ โดยไม่ได้พึ่งรัฐแต่อย่างใด และเรายังสามารถดำเนินการได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อีกด้วย
BAM รุกปรับบทบาทเชิงรุก
กรรมการผู้จัดการใหญ่ BAM กล่าวกับเราว่า ที่ผ่านมาหลักการทำงานของแบบนั้น มุ่งเข้าไปบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ และขายออกไปเป็นหลักเท่านั้น
แต่หลังจากนี้ BAM จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพในมือใหม่ไปสู่การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ สินทรัพย์เหล่านี้
"บรรดาสินทรัพย์ที่ BAM ได้มานั้น มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดฯ กว่า 5,000 หน่วย รวมทั้งที่ดินหลายหมื่นล้านบาท และสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่บุคลากรของเราที่มีอยู่ในปัจจุบันหลังจากผ่านร้อนผ่านหนาว และผ่านประสบการณ์และการเรียนรู้ต่างๆ แล้ว เรามั่นใจว่า ด้วยศักยภาพและบุคลากรที่มีอยู่เหล่านี้จะสามารถพัฒนาสินทรัพย์เหล่านั้นให้มีมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ก่อนที่จะทำการขายออกไปด้วยราคายุติธรรมได้อย่างแน่นอน"
ผุด "บ้านสวนสมุนไพร" นำร่อง
เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินทรัพย์ ที่อยู่ในมือของ BAM ล่าสุด เราได้ดำเนินโครงการ "บ้านสวนสุขใจกับสมุนไพรในบ้านเรา" โดยนำที่ดินขนาด 100 ตารางวา ย่านรังสิต มาทำแปลงสาธิต เน้นคอนเซปต์ ”Digital Living Home” โดยเพิ่มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถควบคุมอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ ภายในบ้าน
ทั้งนี้ จะนำที่ดินมีอยู่ในมือกว่า 4,000 รายการ มาต่อยอดทำการพัฒนาใหม่ เป็นบ้านสวนสุขใจ เป็นบ้านสมาร์ทโฮม ที่มีความทันสมัยไฮเทค และล้อมรอบไปด้วยสวนสมุนไพร ภายใต้การบริหารจัดการของทีมงานคุณภาพของ BAM ที่ล่าสุดมี6 หน่วยงาน ที่กระจายกันอยู่ จะนำมารวมกันเป็นทีมงานที่เข้มแข็ง ทั้งฝ่ายบริหารจัดการ วิศวกร สถาปัตย์ฯ และฝ่ายจัดจำหน่ายหรือขาย ซึ่งทีมงานเหล่านี้จะทำหน้าที่ใกล้เคียง Developer ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะทำงานเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่ซื้อมาขายไป แต่ในอนาคต BAM จะทำงานลึกขึ้น โดยจะพัฒนาทรัพย์สินให้ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น ก่อนขายออกไปในราคายุติธรรมหรือราคาไม่สูงมาก เพราะรุกทำตลาด Mass มากขึ้น!
ยกตัวอย่างกรณีบ้านสวนสุขใจกับสมุนไพรไทยในบ้านเรา ก็เป็นโครงการนำร่องในการสร้าง Brand awareness ให้กับบ้านดังกล่าว ก่อนจะทำการขายออกไป ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ถือเป็นโครงการต้นแบบของการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใหม่ในมือ BAM ซึ่งเขื่อว่าจะสร้างประโยชน์ เพิ่มมูลค่าให้แก่สินทรัพย์ในมือ
นอกจากนี้ BAM ยังมีโครงการ ที่จะขาย สินทรัพย์ในมือผ่าน ”ระบบออนไลน์” อีกด้วย โดยจับมือกับผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อจัดจัดมหกรรมขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในเร็วๆนี้
"มาถึงจุดนี้ BAM มั่นใจว่า เรายังสามารถที่จะสร้างคุณค่าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อีกมาก และเพื่อเป็นการรองรับการสยายปีก ขยายบทบาทของ BAM ในอนาคตอันใกล้นี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ บริษัท ออกหุ้นกู้ จำนวน 25,000 ล้าน เพื่อรองรับการขยายพอร์ตของ BAM เพื่อรองรับการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ NPQ เข้ามาบริหารจัดการตามแนวทางใหม่ รวมทั้งล่าสุดได้ดึงมือดีที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อศึกษาแผนนำ BAM เข้าจดทะเบียนในตลาดทรัพย์ในปีนี้อีกด้วย"