กำลังเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น Talk of the Town...กับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 เรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และคำสั่งที่ 4/2562 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมว่า เป็นรายการ "ทิ้งทวนก่อนเปลี่ยนผ่าน" อันเป็นบทถนัดของนักการเมืองขี้ฉ้อทั้งหลายหรือไม่?โดยคำสั่งฉบับแรกนั้นเปิดทางให้กรุงเทพมหานครดำเนินการว่าจ้างเอกชนเข้ามารับสัมปทานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 สายทาง คือ ส่วนต่อขยายที่ 1 ตากสิน-บางหว้าและอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ และพหลโยธิน-สะพานใหม่-คูคต อ้างเพื่อให้การเดินรถไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องพร้อมให้ยกเว้นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ "พ.ร.บ.พีพีพี ปี 2562" ที่รัฐบาลเพิ่งประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวไปไม่ถึงขวบเดือน!ส่วนคำสั่งอีกฉบับ เป็นการออกมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ที่ต่างอยู่ในสภาพ "หืดจับหายใจไม่ทั่วท้อง" นับตั้งแต่คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจกใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลออกมาเป็นกุรุดเมื่อปี 59 โดยเปิดทางให้ผู้ประกอบการผ่อนชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และสามารถคืนใบอนุญาตได้โดยไม่ถูกปรับขณะเดียวกันยังได้พ่วงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการมือถือทั้ง 3 ค่ายที่ต้องแบกรับภาระจ่ายเงินค่าธรรมเนียมประมูลคลื่น 900 และ 1800 MHz. ทำให้ไม่อยู่ในสถานะที่จะระดมทุนเเพื่อประมูลคลื่นความถี่ใหม่เพื่อพัฒนาระบบ 5จี ได้อีกไม่ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะดาหน้าออกมาการันตีว่ารัฐบาล คสช. ชุดนี้ “ไม่มีโกง” แต่การเร่ง “ทิ้งทวนก่อนเปลี่ยนผ่าน” เปิดทางประเคนโครงการยักษ์ไปให้เอกชนข้างต้นนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกระทำมันช่าง “ย้อนแย้ง” กับสิ่งที่รัฐบาลเที่ยวไป “ตราหน้า” พฤติกรรมของนักการเมืองขี้ฉ้อในอดีตทั้งหลายมาโดยตลอด!ยิ่งในส่วนของคำสั่งฉบับแรกที่ให้การดำเนินการทั้งมวลของ กทม. ในการเจรจาเพื่อประเคนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปให้บริษัทเอกชนเข้ามารับสัมปทานติดตั้งและเดินรถไปถึง 20-30 ปี โดยไม่ถือว่าเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี 2562 กฎหมายใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้ไม่ถึงขวบเดือนนั้นมันช่าง “ย้อนแย้ง” กับสิ่งที่นายกฯ เพิ่งป่าวประกาศ "ตราหน้า" พฤติกรรมของใครต่อใครก็ตาม ที่พยายามพลิกช่องหาทางหลีกเลี่ยงเพื่อเอาชนะกฎหมายในทุกรูปแบบว่าเป็นพฤติกรรมของ "คนเลว" เสียจริง !นอกจาก 2 เรื่องร้อนที่ทำให้สังคมเต็มไปด้วยข้อ “กังขา” ข้างต้น ยังมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์อีกหลายต่อหลายโครงการที่รัฐบาลชุดนี้กำลังใส่เกียร์ 5 เร่งสปีดเพื่อ "ปิดดีล" หาเอกชนเข้ามารับเหมา หรือรับสัมปทานก่อนเปลี่ยนผ่าน ไล่ดะมาตั้งแต่ 5 โครงการโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ทั้งรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่การรถไฟฯ กำลังเร่งโม่แป้งหวังปิดดีลกับกลุ่มซีพี โฮลดิ้ง และพันธมิตรให้ได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ ทั้งที่บริษัทเอกชนยื่นข้อเสนอที่ผิดเงื่อนไขทีโออาร์ และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาตั้งแต่ต้นหรือการประมูลสิทธิ์ประกอบกิจการร้านปลอดภาษี หรือ "ดิวตี้ฟรี" ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ที่ถูกสังคมตั้งข้อกังขามาโดยตลอดถึงความพยายามประเคนสัมปทานแสนล้านออกไปให้กลุ่มทุนเจ้าของสัมปทานเดิม โดยมีความพยายามจะพลิกหาช่องกำหนดเงื่อนไขเพื่อล็อกสเปคกันไว้ตั้งแต่ในมุ้งหรือไม่ล่าสุด แม้รัฐบาลจะยกเครื่องแก้ไขกฎหมายเดิมที่มีช่องโหว่ทำให้มีการกระเตงโครงการหนี พ.ร.บ.ร่วมลงทุนได้ โดยคลังได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ร่วมลงทุน หรือ พ.ร.บ.พีพีพีฉบับใหม่ ปี 2562 แต่ก็กลับเปิดช่องให้มีการดึงโครงการสัมปทานนี้หลบเลี่ยงกฎหมายนี้ไปได้อีกด้วยข้ออ้างเป็นโครงดารในเชิงพาณิชย์ที่ไม่อยู่ในข่ายที่ต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมายนี้กรณีการจัดตั้งสภาดิจิทัลแห่งประเทศไทย ที่กำลังจ่อคิวประกาศในราชกิจจานุเบกษาในอีกไม่ถึงขวบเดือนข้างหน้านี้ ที่มีบทเฉพาะกาลจ่ออุ้มกลุ่มทุนสื่อสารให้แปลงร่างขึ้นมาสวมรอยนั่งแป้นประธานสภาดิจิทัลแห่งชาติ กรุยทางสู่การ "ล้วงตับ" นโยบายสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศทุกโครงการที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่มีการเร่งสปีดหวัง “ทิ้งทวน” กันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนเปลี่ยนผ่านรัฐบาลชุดใหม่ โดยที่บริษัทเอกชนที่จะเข้ามารับสัมปทานโครงการเหล่านี้ 20-30 ปี หรือบางโครงการผูกปิ่นโตยาวไปถึง 50 ปีรวดนั้น ก็ล้วนแล้วแต่กลุ่มทุน “กากี่นั๊ง” ที่แวดล้อมอยู่ในคณะกรรมการประสานพลังประชารัฐทั้งสิ้นแบบนี้กระมังที่โบราณท่านว่า “ว่าแต่เขา...อิเหนาเป็นเอง” ของจริง!!! และเป็นเครื่องตอกย้ำให้เห็นว่า ขึ้นชื่อว่า "นักการเมือง" แล้วไม่ว่าจะเข้ามาด้วยวิธีการไหน ก็หนีไม่พ้นจะเล่นพรรคเล่นพวก "สวาปามผลประโยชน์" ด้วยกันทั้งนั้น!!!