เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 สำนักงานควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ได้โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า “เตือนเกษตรกรและผู้ส่งออกระวังโรคผลเน่าในทุเรียน จากเชื้อรา Lasiodiplodia theobromae”
โดยผลทุเรียนจะมีแผลสีน้ำตาล ลักษณะนิ่ม เมื่อแผลขยายมากขึ้น พบเส้นใยสีเทาปนเขียวขึ้นฟูบริเวณแผล อาการเน่าลามไปถึงส่วนเปลือกด้านในเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง และส่วนเนื้อของทุเรียนมีลักษณะนิ่มฉ่ำน้ำ
เชื้อราสาเหตุสามารถแพร่กระจายโดยทางลม น้ำ ดิน และใบ เข้าสู่ผล โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีลมพายุ ความชื้นสูง เชื้อราจะเข้าทำลายตั้งแต่ระยะผลอ่อนจนกระทั่งผลแก่ แหล่งที่มาของเชื้อในแปลง จากส่วนของพืชที่เป็นโรค เศษซากพืช และดินที่มีเชื้อสาเหตุโรคสะสมอยู่ โดยหยดน้ำกระเด็นมาถูกหรือน้ำฝนที่ตกลงมากระทบสปอร์แล้วถูกลมพัดไป รวมถึงการสัมผัสกันระหว่างผลปกติกับผลที่เป็นโรค
การควบคุมโรค
1. ตัดผลเน่าและเก็บรวบรวมผลเน่าที่ร่วงหล่นอยู่ในบริเวณสวนไปเผาทำลาย
2. เมื่อพบผลเน่า 1 ผลต่อต้น หรือในสวนที่เป็นโรครากเน่าและโคนเน่ารุนแรง ใช้ฟอสเอทธิล อะลูมิเนียม (fosetyl-aluminium) 80% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ผล ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยวผล 30 วัน
3. หลังเก็บเกี่ยวให้รีบตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งเป็นโรค ทารอยแผลที่ตัดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราหรือปูนแดง และกำจัดวัชพืช
4. ไม่วางผลทุเรียนบนพื้นดินโดยตรง และระมัดระวังการเกิดบาดแผลจากผลทุเรียนกระแทกกัน
5. หลังการเก็บเกี่ยวจุ่มผลทุเรียนไนอิมาซาลิล (imazalil) ความเข้มข้น500 มิลลิกรัมต่อลิตร นาน 3 นาที ควรทำภายหลังจากเก็บเกี่ยวโดยเร็ว