จำเลยปาล์มอินโดฯ "นิพิฐ" ถอดสายน้ำเกลือเขียนพินัยกรรมเลือดแจงคดีปาล์มอินโดฯ หลังเจอภาวะไตวาย ต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตเร่งด่วน แต่ถูกขีดเส้นให้ต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อคณะ กก.ไต่สวนคดี ป.ป.ช. เลยต้องทำพินัยกรรมเลือด 91 หน้า ร้องขอความเป็นธรรมมหากาพย์คดีปาล์มอินโดฯ ที่กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจเข้าไปลงทุนปลูกปาล์มในประเทศอินโดนีเซียด้วยมูลค่าการลงทุนร่วม 20,000 ล้านบาท หวังจะให้เป็นแหล่งรายได้ทดแทนธุรกิจน้ำมัน แต่กลับไปไม่รอดจนต้องถอนตัวออกมาก่อนจะมีการขุดคุ้ยและตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้อง และนำเรื่องเข้าร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไล่เบี้ยผู้เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวที่ผ่านมาร่วม 5 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จนจำเลยในคดีที่ถูกระบุว่าเป็น "ต้นตอ" ที่ทำให้เกิดความเสียหายลุกขึ้นมา "ฟ้องกราวรูด" ผู้เกี่ยวข้องแทนนั้นล่าสุด "สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์" ได้รับเอกสารหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมของ นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตผู้บริหารบริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน) และ ปตท. กรีนเอนเนอร์ยี จำกัด (มหาชน)(PTTGE) ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมเอกสารที่อ้างว่า เป็นบันทึกคำชี้แจงกรณีโครงการปาล์มอินโดฯ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่มีไปยังประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำเนานำขึ้นร้องเรียนต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางใบสั่ง ป.ป.ช. ถึง "โคม่า" ก็ต้องมาให้การโดยเอกสารฉบับแรกที่จั่วหัวร้องขอความเป็นธรรมนั้น นายนิพิฐ ระบุว่า เพราะได้รับหนังสือจากคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ป.ป.ช. เพื่อให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 แต่เนื่องจากในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ตนเองต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ปลูกถ่ายเปลี่ยนไต ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี จำเป็นต้องพักรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จึงไม่อาจเข้าชี้แจงและรับทราบข้อกล่าวหาได้ แม้จะได้ส่งเอกสารใบรับรองแพทย์ ต่อกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว แต่องค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ที่มีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน กลับมีหนังสือแจ้งว่า ได้เคยอนุญาตให้ตนเองเลื่อนกำหนดการรับทราบข้อกล่าวหา ไม่สามารถจะเลื่อนได้อีก จึงมีมติให้ส่งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาให้ตนรับทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนแทน พร้อมยืนยัน ให้ตนเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการไต่สวนภายในเวลา 15 วันนับจากวันได้รับหนังสือดังกล่าว โดยหากไม่เข้าชี้แจงภายในกำหนดเวลา ก็ให้ถือว่าตนเองได้รับทราบข้อกล่าวหาและไม่ประสงค์จะชี้แจงข้อกล่าวหาแต่ประการใด"ข้าพเจ้าขอกราบเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ไป รับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนดนัดแต่อย่างใด แต่เนื่องจากในนัดครั้งแรกนั้น ข้าพเจ้าจะต้องเข้ารับการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากอยู่ในภาวะอาการไตวายต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถไปรับทราบข้อกล่าวหาได้ ขณะที่เมื่อถึงกำหนดนัดครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าเองจะต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายเปลี่ยนไตใหม่ ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และแม้แต่ชีวิตของข้าพเจ้า ก็ยังจะเอาตัวไม่รอด แต่กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบคดี กลับยังคงยืนยันให้ข้าพเจ้าจะต้องชี้แจงข้อกล่าวหาถึง 4 คดี โดยมีเอกสารที่ต้องใช้ประกอบคำชี้แจงมากกว่า 1 หมื่นแผ่นร้องสอบ 16 ครั้ง แต่ "เก็บงำเข้าลิ้นชัก"ในหนังสือรัองเรียนดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม พร้อมส่งพยานหลักฐานที่สำคัญต่อกรรมการ ป.ป.ช. เจ้าของสำนวนไม่น้อยกว่า 16 ครั้ง ในระยะ 5 ปี ในท้ายหนังสือรองเรียนของนายนิพิฐ ยังระบุด้วยว่า ได้บอกให้คนใกล้ชิดจัดทำบันทึกชี้แจงโครงการปาล์มอินโดฯ นี้ขึ้น ด้วยความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่กำลังป่วยหนัก พร้อมกับยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะให้ทนายความและเครือญาติได้นำหนังสือบันทึกฉบับสุดท้ายนี้ออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวงกว้างด้วยทั้งนี้ ในบันทึกเลือดฉบับดังกล่าวนั้น เจ้าตัวระบุว่ากระทำขึ้น ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ต่อหน้าญาติพี่น้องและบุคคลต่างๆ เป็นการชี้แจงความเป็นมาเป็นไป โครงการปาล์มอินโดฯ ของบริษัท ปตท. และ PTTGE ทั้งหมด โดยมีเนื้อหารวม 91 หน้าอย่างไรก็ตาม "สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์" ไม่สามารถจะเผยแพร่เนื้อหาของบันทึกเลือดฉบับดังกล่าวได้ แม้จะเป็นความประสงค์ ของเจ้าตัวก็ตาม เพราะเรื่องดังกล่าวมีการฟ้องร้องคาราคาซังในชั้นศาลกันอยู่ประกอบกับเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา สำนักกฎหมาย Baker&McKenzie ได้ทำหนังสือแจ้งมายังสำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ ขอให้ยุติการเผยแพร่ข่าวและขุดคุ้ยกรณีปาล์มอินโดฯ ทั้งหมด โดยอ้างว่า สำนักงานฯ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของ PTTGE ได้ตรวจสอบพบว่า เนื้อหาข่าวที่นำลงดังกล่าวแล้วเห็นว่า การที่ศาลอาญาคดีทุจริต ได้รับคดีดังกล่าวไม้เป็นเพียงขั้นตอนทางธุรการเท่านั้น ยังไม่มีคำสั่งประทับรับฟ้องแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงในคดีปาล์มอินโดฯ นั้น ทางปตท.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องต่อศาลแพ่งไปแล้ว โดยศาลได้มีคำสั่งห้ามผู้เกี่ยวข้องทั้ง PTTGE นายนิพิฐไม่ให้มีการแถลงข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก การนำเสนอข่าวของสำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดี อาจเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้ จึงขอให้ระงับและยุติการนำเสนอข่าวทั้งมวลเอาไว้ ดังนั้น สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ จึงยุติการขุดคุ้ยเรื่องราวของ “มหากาพย์...ปาล์มอินโดฯ” จนกว่ากระบวนการพิจารณาของศาลจะได้ข้อยุติ