นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด หรือ เอไอเอส เปิดเผยหลังร่วมลงนามในสัญญา กับ นายบุญสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานกลุ่มสหพัฒน์ ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างเอไอเอสกับสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ “บริษัท สห แอดวานซ์ เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ SAN” ว่า สถานการณ์ในวันนี้อย่างที่เรารู้กันว่า ยังอยู่ในช่วงที่เราต้องช่วยกันพาประเทศเดินหน้าต่อให้ได้ ซึ่งในส่วนของเอไอเอสนั้นยังคงมุ่งมั่นลงทุนสร้าง Digital Infrastructure อย่าง 5G มาอย่างต่อเนื่อง
การร่วมทุนกับสหพัฒน์ในครั้งนี้ คืออีกความตั้งใจที่จะช่วยเสริมศักยภาพของสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ทั้งเรื่องสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงด้านพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกขั้น เพราะ Digital Infrastructure จะช่วยให้ผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ EEC ให้สามารถผลิตสินค้าและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกสนใจมาลงทุนตั้งฐานการผลิตที่ในพื้นที่ EEC มากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดก็จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเดินหน้าต่อได้
“วันนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่เราได้สานต่อแผนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ 5G กับพันธมิตรไปอีกขั้น โดยร่วมมือกับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI จัดตั้ง บริษัท สหแอดวานซ์ เน็ทเวอร์ค หรือ SAN ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) และ ICT Infrastructure ภายในสวนอุตสาหกรรมของ SPI ทั้ง 4 แห่งคือ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี, อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี, อ.เมือง จ.ลำพูน และ อ.แม่สอด จ.ตาก รวมพื้นที่ประมาณ 7,255 ไร่ มีโรงงานตั้งอยู่กว่า 112 แห่ง พร้อมเตรียมนำ ICT Infrastructure และเทคโนโลยี 5G ทั้ง 5G Stand Alone (5G SA) ที่มีความเร็วสูง และ 5G Network Slicing ที่เอไอเอส เป็นรายแรกรายเดียวในไทย ที่สามารถออกแบบเครือข่ายได้อย่างสอดคล้องและยืดหยุ่น ตอบโจทย์ลักษณะของอุตสาหกรรมแต่ละรูปแบบไปให้บริการในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มผลผลิตให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC”
ทั้งนี้ บริษัท สห แอดวานซ์ เน็ทเวอร์ค หรือ SAN จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 300,000 หุ้น เป็นเงิน 30,000,000 บาท โดย บริษัท แอดวานซ์ บรอดแบรนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (ABN) ถือหุ้น 70% คิดเป็นเงินลงทุน 21 ล้านบาท และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (SPI) ถือหุ้น 30% คิดเป็นเงินลงทุน 9 ล้านบาท