“ซากรถยนต์” ที่จอดทิ้งในที่หรือทางสาธารณะ เป็นปัญหาที่ซ่อนเร้นอยู่ตามตรอก ซอก ซอย ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเราพบเห็นกันจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เนื่องจากการจอด(ทิ้ง)ซากรถไว้ในที่สาธารณะ ไม่ได้รุกล้ำที่ส่วนบุคคล จึงไม่เกิดการร้องเรียน ทำให้มีการจอดทิ้งกันได้ทั่วไป
ความเป็นจริงแล้ว การจอดซากรถในที่สาธารณะ มีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
กรุงเทพมหานคร ได้เริ่มดีเดย์จัดเก็บซากยานยนต์ที่จอดทิ้งในที่หรือทางสาธารณะ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 จากการสำรวจจำนวนซากรถในแต่ละสำนักงานเขต รวมทั้งที่ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ต.ค.63) พบว่ามีจำนวนรวม 653 คัน เคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 521 คัน แบ่งเป็นเจ้าของเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 493 คัน และสำนักงานเขตเคลื่อนย้าย จำนวน 28 คัน คงเหลืออีก 132 คัน
โดยกรุงเทพมหานครจะทยอยเคลื่อนย้ายในส่วนที่เหลือ และจะสำรวจซากรถที่จอดทิ้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนการเคลื่อนย้าย จะตรวจสอบติดตามเจ้าของรถและตรวจสอบผู้ครอบครองรถจากฐานข้อมูลกรมการขนส่งทางบก หากไม่พบเจ้าของ จะประสานกับสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ว่าเป็นรถที่เกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ หากได้รับคำยืนยันว่าไม่ใช่รถในคดี จะติดประกาศให้เคลื่อนย้ายซากรถยนต์ภายใน 15 วัน หากเกินกำหนด
กรุงเทพมหานครจะเคลื่อนย้ายซากรถไปเก็บ ณ สถานที่เก็บของกลาง (โรงกำจัดขยะอ่อนนุช เขตประเวศ และโรงกำจัดขยะหนองแขม เขตหนองแขม) หรือพื้นที่ที่สำนักงานเขตเตรียมไว้รองรับ เพื่อรอเจ้าของมารับคืนหรือขายทอดตลาดแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันที่สน.ท้องที่ไว้เป็นหลักฐาน
แท้จริงแล้ว ปัญหา “ซากรถยนต์” ที่จอดทิ้งในที่หรือทางสาธารณะ นอกจากจะผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวแล้ว ยังกีดขวางช่องทางจราจร รวมทั้งเป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอีกด้วย
การจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้าของซากรถให้เคลื่อนย้ายออกจากที่สาธารณะ รวมทั้งประชาชนที่พบเห็นซากรถสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต หากเบาะแสดังกล่าวนำไปสู่การจับปรับ ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันขจัดปัญหาซ่อนเร้นที่เราคุ้นชินกันมานานให้หมดไป
ขอบคุณข้อมูล:
- อรรจน์ชญาณ์ สปส.กทม.
- พื้นที่ในหัวเมืองต่างๆ น่าจะเริ่มเก็บซากรถยนต์เหมือนกัน