"ผมเพื่อน ผกก.โชค โทรถามได้ ผมอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 นะ ยังอยากจะดูใบขับขี่อยู่ไหม..ยังอยากตรวจสอบรถไหม...."
คลิปร้อนที่ยังคงกระหึ่มโซเชียล ของชายที่อ้างตนเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจใบขับขี่ โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนผู้กำกับโรงพักทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช
ก่อนจะลุกลามกลายเป็นกรณีดราม่า เมื่อสิบตำรวจตรีที่ขอตรวจใบขับขี่ถูกคำสั่งเด้งไปช่วยงานอื่นที่ไม่ต้องทำหน้าที่จราจร ทำเอาโลกโซเชียล ร้อนระอุ!
ก่อนจะพลิกล็อกอีกครั้ง เมื่อมีคำสั่งฟ้าผ่าเด้ง ผู้กำกับ สภ.ทุ่งใหญ่ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ไปช่วยงานศูนย์ ศปก.นครศรีธรรมราช พร้อมสั่งให้ยกเลิกคำสั่งย้าย ส.ต.ต. คนดังดังกล่าวให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม
ขณะที่โลกโซเชี่ยลยังคงตามบี้ชายในคลิปผู้ที่อ้างตนว่าเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตฯ ภาค 8 ด้วยหวังจะให้ออกมาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอโทษสังคม แต่ดูเหมือนชายคนดังกล่าวจะปฏิเสธที่จะตอบโต้พร้อมยืนยันแค่ความเห็นไม่ลงรอยกัน ไม่มีอะไรในกอไผ่
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้ออกมาแสดงความเห็นกรณีนี้อย่างเผ็ดร้อน ยืนยันการตรวจใบขับขี่ของพนักงานจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่สามารถกระทำได้ เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ผู้ขับขี่จำเป็นจะต้องปฏิบัติตาม ไม่ให้ดูไม่ได้
อย่างไรก็ตาม "สำนักข่าวเนตรทิพย์ออนไลน์" มีประเด็นข้อสังเกตอีกฟากต่อการตั้งด่านตรวจใบขับขี่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหลาย หาใช่จะขอตรวจสอบใบขับขี่ผู้คนได้ทุกกรณีอย่างที่กล่าวอ้างกัน
แม้ใน พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 42 จะบัญญัติว่า ผู้ขับรถต้อง...มีใบอนุญาตขับรถ...ในขณะขับ...เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที
แต่นั่นมิได้หมายความว่า ให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกตรวจสอบได้ทุกกรณี เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจสอบได้เฉพาะมีเหตุสงสัยเท่านั้น ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ การใช้อำนาจเกินเลยของเจ้าพนักงาน ย่อมต้องถูกปฏิเสธได้
เทียบตามนัย ฎีกา 8722/2555 เมื่อไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามกฎหมายที่จะทำการตรวจค้นได้ การตรวจค้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยซึ่งถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อป้องกันสิทธิของตน ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ อันสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบดังกล่าวได้
เมื่อแสดงตนถึงหน้าที่การงานและให้ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เป็นเจตนาที่แสดงถึงความสุจริตที่สามารถถูกตรวจสอบได้ จึงไม่มีเหตุสงสัยที่จะเรียกตรวจสอบ และในการเรียกตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อ้างเพียงว่า มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ไม่ได้อ้างเหตุตามกฎหมายหรือเหตุความสงสัยใด ๆ ที่จะมาตรวจสอบ
หากเทียบกับกรณีคลิปฉาวที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลจะเห็นได้ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกหยุดรถเพื่อขอตรวจสอบใบขับขี่ โดยไม่ได้ชี้แจงหรือให้เหตุผลใดๆ ประกอบ จะเห็นผู้หญิงที่นั่งมาด้วยกับชายคนดังกล่าวได้พยายามหาเอกสาร (ที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นใบขับขี่) แต่ค้นอยู่นานก็ยังหาไม่เจอ
เจ้าหน้าที่คนเดิมจึงกล่าวสำทับเสียงดังว่า " ผมขอดูใบอนุญาตขับรถด้วยครับ ผมมีอำนาจเต็มนะครับ..." ชายในคลิปที่ได้ฟังคำนี้ จึงแสดงความไม่พอใจ ก่อนตอบกลับไปว่าผมรู้ คุณมีอำนาจเต็ม ขณะที่ผู้หญิงที่ยังหาเอกสารไม่เจอจึงได้บอกให้ชายคนดังกล่าวขยับรถไปข้างหน้า เพราะรถเริ่มติด
เมื่อชายคนดังกล่าวเลื่อนรถไป เจ้าหน้าที่ผู้ขอตรวจใบขับขี่ได้วิ่งตามและตะโกนบอกร้อยเวรผู้เป็นหัวหน้าขุดประจำด่านว่า ผู้กองๆ ไม่ยอมให้ดูใบขับขี่ ก่อนที่หัวหน้าชุดจะเดินมาหาชายคนดังกล่าวพร้อมพูดย้ำอีกครั้งว่า "ขอดูใบขับขี่ด้วยครับ"
ชายในคลิป ซึ่งคงจะเกิดอารมณ์ จากที่เมียที่ค้นหาเอกสารไม่เจอสักที แถมได้ฟังคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่บอกว่า ผมมีอำนาจเต็ม คงจะเกิดความรู้สึก จึงได้กล่าวตัดบทไปว่า "ผมเพื่อน ผกก. โชค นะ คุณตรวจสอบได้เลย และผมอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 8 นะ ยังอยากจะดูใบขับขี่อยู่อีกไหม ยังอยากตรวจสอบรถอยู่ไหม"
เห็นได้ชัดว่าที่เขาแสดงตนออกมาเช่นนั้น ย่อมรู้และเข้าใจกฎหมายข้อนี้เป็นอย่างดีว่าอะไรคืออะไร? และการอ้างว่าเป็นเพื่อนผู้กำกับ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตั้งด่าน ก็เพื่อให้ตรวจสอบดูว่าตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ สอดรับกับฎีกา 8722/2555 ดังนั้นเมื่อไม่มีเหตุอันควรสงสัยอะไร ก็ควรจบปล่อยเขาไป เป็นอันจบนั่นเอง
ซึ่งหัวหน้าขุดปฏิบัติการนั้นก็ดูจะเข้าใจดี จึงปล่อยให้ชายในคลิปขับรถออกไปโดย ไม่ได้ตรวจสอบใบขับขี่อีก
เรื่องมันควรจะจบด้วยดี ไม่มีอะไร
แต่เมื่อมีผู้เอาคลิปมาเผยแพร่ ด้วยหวังจะเล่นงานชายผู้อ้างตนเป็นผู้พิพากษาว่ากระทำตัวกร่าง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบใบขับขี่ จนเกิดกรณีดราม่าบานปลายออกมาว่างั้นเถอะ
หากท่านผู้พิพากษาศาลอาญาภาค 8 งัดฎีกา 8722/2555 เอาเรื่องผู้เกี่ยวข้องขึ้นมา คิดว่าใครจะโดนลงโทษจากคลิปฉาวในครั้งนี้?
อย่าลืมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่ตัวอำนาจ แต่เป็นผู้ใช้อำนาจตามกฎหมายที่ถูกต้องเท่านั้นนะครับ
สำนักข่าวเนตรทิพย์ ขอขอบคุณ คุณประเสริฐ(แก่)ผู้ไขความกระจ่างเรื่องนี้ให้