บทสรุปสำหรับภาคแรกของ ยุทธการ “สื่อออนไลน์” บอยคอต...ไม่เข้าร่วม หรือเข้าร่วมน้อยมาก กับงานแถลงข่าวขององค์กรภาครัฐและเอกชนบางแห่ง ที่ “สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์” เคยหยิบมานำเสนอใน 2 ตอนแรก จนกลายเป็น “กระแสสูง” นั้น
รอบนี้ เราลองไปฟังตัวแทนของคน 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หนึ่ง...คือ นักข่าวภาคสนาม สังกัดในกลุ่มสื่อออนไลน์ “กลุ่มที่ 2” หรือ “สื่อออนไลน์ตัวจริง” ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 70 ของ “สื่อออนไลน์” ทั้งหมดที่มี อีกหนึ่งคือ...ตัวแทนคนทำหน้าที่ “ประชาสัมพันธ์” ในองค์กรภาครัฐและเอกชน และอีกหนึ่ง...มาจากฟากของผู้บริหารระดับกลาง ที่ “ตกกระไดพลอยโจร” ไปกับสถานการณ์นี้ด้วย
ก่อนอื่น...ต้องย้ำกันก่อนว่า มุมมองและข้อเสนอแนะที่ “สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์” กำลังจะนำเสนอนับจากนี้ มาจากตัวแทนมากกว่า 1 คนของแต่ละกลุ่ม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของคนให้ข้อมูลได้ ขณะที่พวกเขาและเธอเอง ก็ไม่ประสงค์จะออกนาม...กับบทความชิ้นนี้เช่นกัน
อย่างที่เกริ่นในตอนต้น...บทความชิ้นนี้ จะถือเป็น “บทสรุป/ตอนจบ” ของภาคนี้ ส่วนจะมีภาคใหม่ต่อหรือไม่? ขึ้นกับสถานการณ์จากนี้ไปว่า...ยังจะมีเรื่องราวความระหองระแหงต่อไปอีกหรือเปล่า? เอาเป็นว่า...รอบนี้ ลองไปฟังมุมมองและข้อเสนอของเรื่องนี้กันก่อน...
“น.” และ “ด.” ได้สะท้อนเสียงจากฝั่งของ “สื่อออนไลน์ตัวจริง” ในกลุ่มที่ 2 ว่า...เห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ กับบทความ 2 ตอนก่อนหน้านี้ (อ่านรายละเอียดตามลิงค์ด้านล่าง)
จะว่าไปแล้ว...ทั้ง 2 คน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ “เพื่อนสื่อ” กลุ่มที่ได้รับการเอาอกเอาใจจาก...ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ฯ มากกว่ากลุ่ม “สื่อออนไลน์”
ส่วนหนึ่ง เพราะเข้าใจดีว่า พวกเขามีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันยาวนานนับแต่อดีต อีกส่วนหนึ่งเพราะความเป็น “สื่อใหญ่” ที่มีอิทธิพลและพลังพิเศษ เกินกว่า “สื่อออนไลน์” จะพึงมี ตรงนี้...ยอมรับกันได้
แต่ที่พวกเขารู้สึกไม่ค่อยดี คือ ทุกครั้งของการจัดแถลงข่าว หรือกิจกรรมประชาสัมพันธ์ใดๆ ทำไมกลุ่มสื่อที่ได้รับเชิญร่วมทริปไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่เคยออกมาทำข่าว หรือเข้าร่วมงานในภาคสนามขององค์กรเหล่านั้น...น้อยมาก
พูดง่ายๆ นักข่าวกลุ่มนี้...แทบไม่เคยออกงานทำข่าว แต่เวลามีทริปไปต่างประเทศ...กลับเสนอหน้าไปกันแทบทุกทริป ขณะที่ “สื่อออนไลน์” ซึ่งออกทำข่าวภาคสนามแทบจะทุกครั้ง กลับไม่ได้รับเชิญ หรือบางคน-บางสื่ออาจมีชื่อร่วมทริปไปต่างประเทศบ้าง...แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อย
ที่น่าขำ...บางสื่อ “ปิดตัว/เลิกกิจการ” กันไปแล้ว แต่ดันมีชื่อร่วมทริปไปกับเขาด้วย!!!
“ที่พี่ต้องขอแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่เพราะอยากจะไปต่างประเทศหรอกนะ ทุกปีก็มีบางบริษัทที่เชิญไปร่วมทริปต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ที่ต้องออกมาพูด เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาสำรวจและสร้างมาตรฐานการทำงานร่วมกันใหม่ ระหว่าง...ตัวแทนองค์กรภาครัฐและเอกชน กับกลุ่มสื่อฯ ไม่ใช่อะไรๆ ก็เชิญเฉพาะแต่พวกพ้องของตัวเอง ปล่อยให้นักข่าวที่มาทำข่าว และเห็นหน้าค่าตากันทุกครั้ง ทำข่าวอยู่ในแต่ประเทศ เพียงเพราะพวกเขาเป็นแค่สื่อออนไลน์เท่านั้น” พี่ “น.” ย้ำ
ส่วนพี่ “ด.” เสริมให้ด้วยว่า... นักข่าวภาคสนามที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวขององค์กรภาครัฐและเอกชน ต่างมากันด้วยใจ และเป็นหน้าที่ที่จะต้องนำข่าวสารและข้อมูลไปเสนอต่อสังคมไทย ไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครมา ดังนั้น การจัดทริปไปต่างประเทศ หรือจัดกิจกรรมใหญ่ๆ สำคัญๆ เช่น งานคอนเสิร์ตดังๆ ละครเวที หรืออีเว้นท์ที่น่าสนใจ ก็ควรจัดสรรปันส่วนไปให้กลุ่มนักข่าวทำงานอยู่ในภาคสนามกันบ้าง ไม่ควรกระจุกตัวอยู่กับคนกลุ่มเดิมๆ ที่บางคนไม่เคยออกมาทำข่าว หรือต้นสังกัดเลิกกิจการกันไปแล้ว
หันมาดูทางฝั่ง ตัวแทนเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์กันบ้าง ทั้งเขาและเธอยอมรับว่า...ความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีกับกลุ่มสื่อบางคน ที่แม้...พวกเขาไม่เคยมาทำข่าว หรือออกมาทำข่าวภาคสนามน้อยครั้งมาก แต่กลับเป็น “ตัวเลือกต้นๆ” ที่จะได้รับเชิญร่วมทริปเดินทางไปต่างประเทศ
ส่วนหนึ่งเพราะ “มีการถามถึง” นักข่าวคนนี้...คนนั้นจากฝ่ายบริหารบางคน เนื่องจากนักข่าวกลุ่มนี้...ยังคงโทรศัพท์มาสัมภาษณ์ หรือพูดคุยทักทายกับฝ่ายบริหารอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น เวลามีการจัดทริปต่างประเทศ เมื่อฝ่ายบริหารถามชื่อนักข่าวฯ จำเป็นที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์จะต้องเชิญคนกลุ่มนี้ก่อน อย่างไรก็ดี แม้อยากจะเชิญนักข่าวในกลุ่ม “สื่อออนไลน์” เข้าร่วมทริปต่างประเทศ แต่ก็จะต้องพิจารณาประกอบ “เงื่อนไข” ของแต่ละองค์กรที่อาจมีไม่เหมือนกัน
กระนั้น พอสรุปได้ว่า...การเชิญสื่อฯร่วมทริปต่างประเทศแต่ละครั้ง จะพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ อาทิ เป็นสื่อที่เพื่อนสื่อด้วยกันยอมรับไหม? เข้าร่วมกิจกรรมกับองค์กรทุกครั้งหรือไม่? มีอายุงานนานเท่าใด? องค์กรต้นสังกัดจัดตั้ง และ/หรือ ดำเนินงานมานานแค่ไหน? ฯลฯ เหล่านี้...ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานประกอบการพิจารณาในขั้นต้น
ยังจะมีเรื่องงบประมาณที่มี และจำนวนคนที่จะเข้าร่วมทริป รวมถึงประเภทหรือรายการของสื่อนั้นๆ ว่า ตรงกับเป้าหมายและภารกิจของการเดินทางในครั้งนี้หรือไม่?
“ปกติ เราก็ถั่วเฉลี่ยเชิญสื่อในกลุ่มต่างๆ อยู่แล้ว อาจจะมีบ้างที่บางสื่อได้รับเชิญไปต่างประเทศบ่อยกว่าสื่ออื่น แต่นั้นเพราะองค์กรอื่นๆ เขาเชิญกันไปเอง แล้วบังเอิญมาซ้ำกับองค์กรของเรา” ตัวแทนเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์...แสดงความเห็น
ด้านตัวแทนผู้บริหาร ซึ่งเป็น “คนระดับกลาง” ขององค์กรภาครัฐและเอกชน ต่างเห็นตรงวันว่า...น่าที่สื่อมวลชน โดยเฉพาะ “สื่อออนไลน์” ควรจะรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่ม? ไม่ว่าจะเป็นชมรมฯ หรือสมาคมฯ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารทางตรงได้ง่ายขึ้น และพวกเขาก็พร้อมจะประสานงาน ทั้งเรื่องของการเชิญเข้าร่วมทำข่าว และ/หรือ ร่วมทริปไปต่างประเทศ นอกเหนือจากการ “เชิญตรง” ไปยังต้นสังกัดฯ และตัวนักข่าวเอง
หากต้นสังกัดและองค์กรสื่อ (ชมรมฯหรือสมาคมฯ) ได้มีส่วนร่วมตัดสินใจแล้ว เชื่อว่าปัญหานี้คงจะคลายตัวไปได้บ้าง ขึ้นกับว่า...โอกาสจัดตั้งองค์กรสื่อที่ได้รับการยอมรับจากสังคมไทยและเพื่อนสื่อด้วยกันเอง จะเกิดขึ้นได้เร็วแค่ไหนกัน
ถึงตรงนี้ “สำนักข่าวเนตรทิพย์” พอจะมองเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ จากมุมมองและข้อเสนอแนะข้างต้น ที่ต้องย้ำกันเน้นๆ ว่า “เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล” แต่อย่างน้อย...หากทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน หันมาสร้างบรรทัดฐานและมาตรฐานขึ้นใหม่ บนความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ระหว่าง “นักข่าว” กับผู้มีหน้าที่ และ/หรือ ดูแลงานประชาสัมพันธ์ แล้ว
ไม่เพียงปัญหากระทบกระทั่งที่เคยมีจะหมดไป หากแต่ข้อครหา อันเป็น “ปฐมเหตุ” ของเรื่องนี้ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่า...เป็นเพราะนักข่าวในนกลุ่ม “สื่อออนไลน์” กระสันจะเข้าร่วมทริปไปต่างประเทศ ก็จะได้ไม่ถูกใครบางคน? เอาไปบริภาษในสังคมสื่อออนไลน์อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
ตราบใดที่...งานประชาสัมพันธ์ ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับภารกิจ “เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี” ทั้งต่อ...องค์กร, สินค้าและบริการ รวมถึงตัวผู้บริหาร (เจ้าของ) แล้ว อย่าได้คิด “ก่อเรื่อง” อันจะนำไปสู่ความบาดหมางครั้งใหม่กับสื่อมวลชน ไม่ว่าจะในกลุ่มไหน? หรือแขนงใด? แต่อย่างใด?
10 เรื่องที่สื่อนำเสนอแต่เรื่องดีๆ ไปนั้น ทว่า...“ภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่สั่งสมกันมา” อาจถูกทำลายเพียงเพราะ 1 เรื่องร้ายๆ จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพียงเพราะคุณ...ไม่ใช่ “เพื่อนของสื่อ”
อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ...ในยุค “ดิจิทัล เทคโนโลยี” ที่...สื่อสังคมออนไลน์ ต่างมีบทบาทและชอนไชเข้าลึกถึงวิถีชีวิตของผู้คนยุคนี้...นี่คือข้อเท็จจริงอย่างที่สุด!!!
โดย..กากบาทดำ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “บอยคอต ”บทเรียนสอนใจ”พีอาร์” เมื่อเลือกสื่อหลัก ปฏิเสธสื่อออนไลน์.. http://www.natethip.com/news.php?id=302
- จากปม ”บอยคอต” กับ ”ก๊วนสื่อออนไลน์” ..รู้เขา? รู้ใคร? ก่อนเปิดศึกห้ำหั่นใส่กัน! http://www.natethip.com/news.php?id=315