ยังคงเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์” ที่ผู้คนก่นด่ากันสนั่นเมือง!
กับเรื่องของมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลัง “เรียกแขกให้งานเข้า” จนทำเอารัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แทบไปไม่เป็น เพราะแต่ละคำสั่งแต่ละมาตรการที่ออกมานอก จากจะไม่สะเด็ดน้ำแล้ว ยังเต็มไปด้วยปัญหาแทบจะกลายเป็นต่างคนต่างทำ
อย่างเรื่องที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศปิดสถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ และกำหนดเวลาให้ร้านค้า หาบเร่แผงลอยทั้งหลายเปิดให้ลูกค้านั่งกินได้ไม่เกิน 1 ทุ่ม แต่กลับปล่อยให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและโมเดิร์นเทรดเปิดให้บริการได้ตามสะดวก จน “นายกฯ” ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ต้องออกมากระตุกเบรก และหักดิบออกคำสั่งให้ขยายเวลานั่งกินไปได้ถึง 3 ทุ่ม
แต่กระนั้นก็ยังทำเอาทุกฝ่ายมึนไปกับมาตรการเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย กับมาตรการที่ใช้บังคับบรรดาตลาดสด หาบเร่แผงลอยทั้งหลายที่รัฐงัดมาตรการกำกับดูแลกันคนละมาตรฐาน เพราะแต่ละตลาดนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอาลวด แผงกั้น หรือเชือกมากั้นคอกบังคับเข้า-ออกทางเดียว และกำหนดเวลาเปิดปิดสุดเข้มงวด แต่กลับเปิดให้บรรดาห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต หรือตลาดติดแอร์ของยักษ์ค้าปลีกทั้งหลาย รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อทั้งเทสโก้ เอ็กซ์เพรส 7-11 ยังคงเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีเครื่องกั้นใด ๆ
และที่กลายเป็นกระแส “ดรามา” บนโลกโซเชียลล่าสุด ก็คือกรณีที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาแถลงข่าววันวาน ถึงกรณีที่ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ที่ออกโรงติงมาตรการควบคุมเชื้อด้วยการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ เช่น ตลาดสด ตลาดนัด ร้านหาบเร่ แผงลอยข้างถนน ห้ามนั่งรับประทานอาหารในที่โล่งนอกอาคาร นอกบ้านหลัง 3 ทุ่ท ที่นัยว่าส่งผลกระทบกับคนหาเช้ากินค่ำ และเศรษฐกิจ แต่กลับให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ร้านสะดวกซื้อจนไปถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ปิด (indoor) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ อากาศถ่ายเทไม่ดี มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าในที่กลางแจ้ง 10 เท่าให้เปิดทำการได้ตามเวลาปกติ
โดยท่านอธิบดีกลับออกมาแจงแทนห้างเหล่านั้นว่า เรื่องความเสี่ยงในการแพร่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เกิดจาก 1. อากาศถ่ายเท 2. การพบผู้สัมผัส คนที่ไปห้างส่วนใหญ่ไปเพียงไม่นาน แต่ตลาดที่เสี่ยงตอนนี้ คือ มีแรงงานต่างด้าว ซึ่งขณะนี้เราตรวจพบเชื้อในแรงงานต่างด้าวเยอะ มีตัวอย่างที่ตลาดกลางกุ้ง ตลาดบางใหญ่ เป็นต้น
เห็นชัดว่ามีผู้ติดเชื้อเยอะ แต่ห้างสรรพสินค้านั้นคนเข้า คนออกเยอะจริง แต่คนติดเชื้อไม่เยอะ ดังนั้น จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ ทั้งนี้ สภาพของตลาด บางครั้งอากาศถ่ายเทอาจจะดีกว่า แต่การมีผู้ติดเชื้ออยู่ในตลาดค่อนข้างหนาแน่น ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อเยอะ
ก่อนหน้านี้ นายวรวุฒิ อุ่นใจ อดีตผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลและประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ออกมาโพสต์แนะนำหนทางในการแก้ปัญหาการเปิด-ปิดตลาดสดของคนรากหญ้า โดยนำภาพการเปิดตลาดของรัฐบาลเมียนมาที่ยอมปิดถนนบางเส้น เพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้าให้ขายของได้โดยการจัดระเบียบการตั้งร้าน แผงลอยที่เว้นระยะห่างให้ประชาชนได้จับจ่ายซื้อสินค้า
พร้อมแคปชั่นใต้ภาพว่า “ยอมปิดถนนบางเส้น ช่วยพ่อค้าแม่ค้าแบบนี้ดีกว่าครับ เริ่มตี 5 ถึงแปดโมงเช้าก็น่าจะพอ ดีกว่าปิดตลาด แล้วเขาเหล่านั้นหมดเนื้อหมดตัวไม่มีไรกิน”
อันเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นแนวคิดในการแก้ไขปัญหาของเมียนมา ที่ยังคงให้ผู้คนได้จับจ่ายซื้อของจากร้านรวงในตลาดหรือหาบเร่แผงลอยได้ โดยมีการปิดถนนบางเส้นเพื่อให้ร้านค้า หาบเร่แผงลอยเหล่านี้ยังคงสามารถค้าขายได้ ขณะที่การแก้ไขปัญหาของไทยนั้นกลับเลือกที่จะปิดตายตลาด แต่กลับยอมเปิดให้ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านโมเดิร์นเทรดทั้งหลาย จนกลายเป็นประเด็นดรามาที่โลกโซเชียลกำลังทวงถามรัฐบาลว่า เป็นรัฐบาลเอื้อนายทุนหรือไม่?