เชียงใหม่ประกาศเป็นศูนย์การท่องเที่ยวนิเวศโลก หนุนกฎบัตรเชียงกำหนดเป้าหมายบูรณาการท่องเที่ยว เอ็กซ์โป การประชุมมรดกโลก เมดิคอลฮับ ฟู๊ดวัลเลย์ วัฒนธรรมพื้นถิ่น นิเวศธรรมชาติ ระบบขนส่งมวลชน การจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสู่เมืองท่องเที่ยวนิเวศโลก คาดหวังจีพีพีเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 10 ปี
นายไพรัช โตวิวัฒน์ รองประธานกฎบัตรเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมปฏิบัติการครั้งที่ 2 กฎบัตรเชียงใหม่ว่า ที่ประชุมมติให้ยกระดับจังหวัดเชียงใหม่เป็นการท่องเที่ยวนิเวศโลก กล่าวคือ การเป็นศูนย์การท่องเที่ยวที่รวมเอาทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากรด้านวัฒนธรรม ทรัพยากรด้านมรดกโลก ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เชียงใหม่มีอยู่ค่อนข้างสมบูรณ์ บูรณาการเข้ากับทรัพยากรด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังได้รับการพัฒนา ได้แก่ ศูนย์นวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพ หรือ Medical Hub ศูนย์การพัฒนาการเกษตรอาหารสมัยใหม่ หรือ Food Valley หรือย่านนวัตกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมืองเชียงใหม่และอำเภอต่างๆ
นอกจากนั้น ยังพร้อมนำศูนย์เศรษฐกิจอัจฉริยะของย่านนิมมาน (Nimman Smart City) ศูนย์เศรษฐกิจใหม่รอบศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล และกิจกรรมไมซ์ขนาดใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่จะจัดในอีก 2 ปีข้างหน้าได้แก่ งานเชียงใหม่และนอร์ทเทิร์นเอ็กโป (Chiangmai&Northern Expo) เข้าร่วมไว้ด้วย
“จากการบูรณาการกิจกรรมที่กล่าวถึง คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณผู้เยี่ยมเยือนจังหวัดเชียงใหม่มากถึง 20 ล้านคน ในปี 2572 ทำให้ผลิตภัณฑ์จังหวัดเพิ่มสูงจากปัจจุบันเป็นสองเท่า”
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ ผ้าเจริญ คณะกรรมการกฎบัตรเชียงใหม่ ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของกฎบัตรกล่าวว่า ในวันที่ 18 มิถุนายน 2562 คณะกรรมการกฎบัตรจะจัดประชุมบูรณาการแผนงานโครงการของภาครัฐและภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการหรือมีแผนจะดำเนินการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะเชิญผู้แทนองค์กรบรรยายสรุปเป้าหมายและแนวทางการปฏิบัติการโครงการละ 30 นาที
“คณะกรรมการยุทธศาสตร์จะนำเอาเป้าหมายสำคัญๆ วิเคราะห์เชิงบูรณาการและจัดทำเป็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ตามแผน 10 ปี”
ทั้งนี้ กลุ่มงานภาครัฐและภาคเอกชนที่จะเข้าร่วมการบรรยายสรุปประกอบด้วย กลุ่มการท่องเที่ยว กลุ่มไมซ์ กลุ่มบริหารจัดการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรม กลุ่มมรดกโลก กลุ่มวัฒนธรรมพื้นถิ่น กลุ่มหัตถกรรมพื้นถิ่น กลุ่มการฟื้นฟูเลคลองแม่ข่า กลุ่มอุตสาหกรรมสีเขียว กลุ่มฟู๊ดวัลเลย์ กลุ่มเมดิคอลฮับและสุขภาวะ กลุ่มสวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะ กลุ่มพลังงานทดแทน กลุ่มการค้าปลีก กลุ่มโรงแรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสายการบิน กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มขนส่งมวลชนและขนส่งสาธารณะ
ด้าน นายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยเชิงพื้นที่เพื่อการออกแบบเมืองอย่างชาญฉลาดเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคม (SG-SBC) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า สมาคมฯ และ สกสว.เป็นกองเลขาสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากฎบัตรเชียงใหม่ เพื่อทดสอบและค้นหาความเหมาะสมในการสร้างการพัฒนาเมืองรูปแบบใหม่ หรือ New Urban Development Platform จากการดำเนินงานของกฎบัตรจังหวัดต่างๆ
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ มีภาคส่วนสำคัญๆ ปฏิบัติการพัฒนาอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นในการสรุปเป้าหมายร่วม (Common goal) จึงต้องให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนในการนำเสนอข้อมูลและจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาตั้งแต่ต้น สาขาการพัฒนาด้านต่างๆ ที่ภาคส่วนได้ศึกษาและปฏิบัติงานไปแล้ว ควรนำมาบูรณาการและวางแผนต่อยอดในทันที
“ไม่ควรศึกษาและวางแผนงานใหม่ เป็นการลดการใช้ทรัพยากรและเวลา ที่สำคัญคือ การสร้างเวทีกลางให้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการแผนไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการบรรลุเป้าหมายไปพร้อมกัน”