การลงทุนในตลาดหุ้น ใครว่าเป็นโอกาสของคนรวยเท่านั้น ถือว่าคิดผิด เพราะปัจจุบันนักลงทุนที่มีเงินน้อยมีช่องทางการลงทุนในหุ้นได้ตั้งหลายช่องทาง เช่น การซื้อแบบถัวเฉลี่ย หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ DCA เช่นการลงทุนรายเดือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวมนี้ นักลงทุนก็สามารถลงทุนแบบ DCA ได้เช่นกัน
ไม่เพียงเท่านี้ ล่าสุดนักลงทุนยังสามารถเป็นเจ้าของหุ้นที่ติดอันดับโลกได้แล้วด้วย โดยหุ้นเหล่านี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้จัดมาใส่ตระกร้าด้วยการทำดัชนีใหม่ นั่นคือ “SET Well-being (SETWB) หรือ ดัชนีหุ้นอยู่ดีกินดี” โดยมีหุ้น 30 ตัวอยู่ในดัชนีดังกล่าว ซึ่งได้เริ่มเผยแพร่ดัชนีในวันที่ 1 เม.ย. 2562 และทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีทุก 6 เดือน (มิ.ย. และ ธ.ค.)
สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณในดัชนี SETWB จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่อยู่ใน 7 หมวดธุรกิจ ได้แก่ “หมวดธุรกิจการเกษตร พาณิชย์ แฟชั่น อาหารและเครื่องดื่มการแพทย์ การท่องเที่ยวและสันทนาการ และขนส่งและโลจิสติกส์"
โดยหลักทรัพย์นั้น จะต้องมีกำไรอย่างน้อย 2 จาก 3 ปีล่าสุด เมื่อพิจารณาจากงบการเงินรวม รวมทั้งต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 20% และเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในแต่ละเดือนต้องมีสัดส่วนอย่างน้อย 0.5% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัทเป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 9 เดือน จาก 12 เดือนในช่วงที่พิจารณา
อย่างไรก็ตาม หุ้นในดัชนีดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทย ที่อยู่ในดัชนี SETWB ทั้งยังติดอันดับโลก เช่น “บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ(BDMS) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)”
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมสนับสนุนการนำดัชนีไปใช้เพื่อออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอนาคต เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟ และกองทุนรวม เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน
ขณะที่ล่าสุดได้มีกองทุนรวมหุ้นอยู่ดีกินดีเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งถือว่าช่วยเพิ่มช่องทางการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่มีเงินน้อย ผู้ที่ออกกองทุนเป็นรายแรก คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ โดยใช้ชื่อว่า “กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทย Well-being (TISCOWB)” มีความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETWB โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก หรือบริหารกองทุนเพื่อให้ผลตอบแทนชนะดัชนี ช่วยนักลงทุนคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนของหุ้นแต่ละบริษัทตามสภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยเฉพาะในแต่ละวงจรเศรษฐกิจ เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 7 - 15 พฤษภาคมนี้
บลจ.ทิสโก้ ให้เหตุผลที่ออกกองทุน TISCOWB ว่า แม้ผลประกอบการในอดีตของหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETWB จะอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แต่การลงทุนที่ดีนั้นนักลงทุนควรคัดเลือกหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานและพิจารณาราคาที่เหมาะสมมาประกอบด้วย
สำหรับกลุ่มธุรกิจในภาคบริการและการเกษตรของไทยนั้นก็เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในด้านการแข่งขันและมีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะในอนาคตคนไทยจะอยู่ดีกินดีมากขึ้นจากรายได้ที่สูงขึ้น
เห็นได้จากรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนรายจังหวัด พ.ศ. 2545 - 2560 จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่พบว่ารายได้ของครัวเรือนในแต่ละจังหวัดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปีส่งผลให้มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยและมีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดี
อีกทั้ง บลจ.ทิสโก้ ประเมินว่าช่วงนี้ยังเป็นจังหวะที่เงินลงทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง จากปัจจัยการเมืองที่เริ่มชัดเจนขึ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าไปในลงทุนในกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ
โดย..ซิลลิ่ง