เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟสบุ๊คในหัวข้อ “8 ปัจจัย: โกงพุ่ง 1.5 หมื่นเรื่อง..” โดยระบุว่า เรื่องร้องเรียน ป.ป.ช. 15,582 กรณี ในช่วงปีเศษของการระบาดโควิด-19 มีสองประเภท หนึ่งคือพวกโกงกินงบโควิด สองคือพวกกินตึกกินถนน โกงรถไฟ รีดไถชาวบ้าน โกงแบบที่เคยโกงอยู่ประจำ
สรุปว่า ใครจะตาย ธุรกิจจะเจ๊ง คนตกงานเป็นหนี้สินไม่มีจะกิน บ้านเมืองฉิบหายข้าก็ไม่จะโกง แต่..อะไรเป็นปัจจัยพิเศษให้โกงกินง่ายในช่วงนี้?
1. มีเม็ดเงินใช้จ่ายมาก ทั้งงบประมาณปรกติและเงินนอกงบประมาณ (เงินสะสมของหน่วยงาน งบกลางและเงินกู้) เมกะโปรเจคของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐยังเดินหน้าต่อเนื่อง
2. กฎระเบียบควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างลดความเข้มงวดลง (ชั่วคราว)
3. นักการเมืองและข้าราชการบางกลุ่ม แทรกแซงการใช้งบประมาณ และการกำหนดนโยบายสาธารณะเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการเมืองแก่ตนและพวกพ้อง หรือมีประโยชน์แอบแฝงอื่น
4. ผู้มีอำนาจบางคนไม่ซื่อสัตย์ คดโกงโดยแอบอ้างโควิด ว่ารัฐจำเป็นต้องเร่งทุ่มเททรัพยากรเพื่อรักษาชีวิตผู้คนและพยุงเศรษฐกิจ
5. กลไกตรวจสอบทำงานไม่เต็มที่ เพราะโรคระบาดทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องทำงานอยู่ที่บ้าน ลดการปฏิบัติงานนอกพื้นที่ ลดการจับต้องเอกสาร/สิ่งของของผู้อื่น
6. โควิคเป็นเรื่องใหม่และร้ายแรง การต่อสู้แก้ไขทุกอย่างจึงเร่งรีบจำเป็น ขณะที่การจัดซื้อ การบริการล้วนขาดแคลน การบริหารจัดการขาดข้อมูลอ้างอ้างอิง ขาดประสบการณ์และความรู้ โอกาสฉ้อฉลจึงเกิดได้ง่าย
7. ของที่ต้องซื้อหามาใช้เกี่ยวกับโควิดมักเป็นสิ่งของที่ใช้หมดไปหรือแจกจ่ายกระจัดกระจายอย่างรวดเร็ว ยากที่จะติดตามตรวจสอบ
8. ช่วงนี้ประชาชนและสื่อมวลชนพุ่งความสนใจเรื่องสุขภาพและปากท้อง แถมคดีคอร์รัปชันเกิดขึ้นมากมาย คนโกงจึงย่ามใจว่าไม่มีใครรู้เห็นไม่สนใจติดตามเรื่องของคน
ป.ป.ช. สตง. และ ป.ป.ท. งานล้นมือ คงจะดีถ้านักการเมืองในสภาฯ และกรรมาธิการหลายสิบคณะ หันมาช่วยใช้บทบาทอำนาจตรวจสอบให้ถูกต้อง ประเทศไทยจะได้ใสสะอาดกว่านี้
“โกงในช่วงโควิดคือโกงชีวิตคนทั้งชาติ: จับให้ได้ จับให้เร็ว ลงโทษให้สาสม” ต้องทำให้เป็นจริงครับ