ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ขณะนี้บริษัทได้ประกาศขายเครื่องบินล็อตเป็นล็อตใหม่ เพิ่มเติมตามแผนการปรับปรุงฝูงบินภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท จากที่ก่อนหน้านี้ประกาศขายล็อตแรกไปแล้วทั้งสิ้นรวม 34 ลำ โดยล่าสุดประกาศขายเครื่องบินเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ลำ คือเครื่องบิน แอร์บัส A330-300 ประกอบด้วย ทะเบียน HS-TEN อายุ 12.6 ปี , ทะเบียน HS-TEO อายุ 12.5 ปี และทะเบียน HS-TEP อายุ 12.2 ปี ซึ่งมีอายุการใช้งานมากที่สุด 3 อับดับแรกของฝูงบิน A330-300 มีทั้งหมด 15 ลำ และทุกลำยังไม่มีการนำมาให้บริการยังคงจอดนิ่ง เนื่องจากความต้องการเดินทางทางอากาศยังไม่ฟื้นจากวิกฤติโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีการประกาศขายเครื่องจำลองการบินแอร์บัส A330 จำนวน 1 เครื่องด้วยอย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนหน้านี้ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงข่าวการขยายเครื่องบินของการบินไทยว่า การบินไทยได้ขายเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวน 10 ลำได้แล้วและเตรียมที่จะเสนอให้รมว.คมนาคม ลงนามอนุมัติด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กบร.) กล่าวว่า ตามระเบียบของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้กำหนดว่า การจะเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองอากาศยานที่มาจดทะเบียนในไทยจะต้องแจ้ง และเสนอขออนุญาตมาที่ กพท. และ กพท. ในฐานะเป็นเลขานุการใน กบร. ดังนั้นจึงต้องมาเสนอต่อมายัง กบร. โดยกระทรวงคมนาคมไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะอนุมัติที่จะซื้อ หรือ ขายเครื่องบิน ของการบินไทย คนที่มีหน้าที่อนุมัติ คือ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู การบินไทย เท่านั้น และที่ผ่านมารายละเอียดเอกสารที่จะเปลี่ยนแปลงรายชื่อการครอบครองอากาศยานก็ยังไม่มาถึง กบร. แต่อย่างใด เช่นเดียวกับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองรถยนต์เช่นกัน หากเอกสารมาไม่ครบก็ไม่สามารถโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองได้