ผู้รู้กล่าวว่า “ถ้าอยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี ให้ศึกษาประวัติและทำตามเศรษฐี” สิ่งนี้นับเป็นอีกวิถีสร้างความมั่งคั่งในการหาเงินได้-ใช้เงินทำงานเป็น ซึ่งมีการนำเสนอโอกาสต่างๆ มาต่อเนื่อง โดยเคล็ดลับจะนำเสนอครั้งนี้..
..เป็นบิลเลี่ยนแนร์ (billionaire) หรือเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญ..
ในยุคต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญยังเป็นเศรษฐีคนแรกๆ ที่ยอมเขียนเปิดเผยเคล็ดลับของตนเองถึงหนทางสร้างความร่ำรวย จากที่ผ่านมาประวัติมหาเศรษฐีส่วนใหญ่ต้องสอบถามจากคนรอบข้างและติดตามเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงจุดพลิกชีวิตสร้างความมั่งคั่งขึ้นมาได้
“พอล เกตตี้” (Paul Getty) บิลเลี่ยนแนร์ ที่เขียนวิธีหาเงินสำหรับคนที่ไม่ได้ร่ำรวยมาก่อน ยอมเขียนบทความเมื่อปี 2503 (ค.ศ.1960) หรือเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน โดยเคล็ดลับ 10 ข้อของเกตตี้ มีอิทธิพลต่อแนวคิดของเศรษฐีรุ่นหลังมาก ซึ่งบทความ วิถีสู่ความร่ำรวย (How to Be Rich) เริ่มขึ้นจากนิตยสารเพลย์บอย ได้ทาบทามเกตตี้ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากธุรกิจขุดเจาะบ่อน้ำมัน มาเขียนบทความผู้ชายวันนี้เงินและคุณค่า
ทางพอล เกตตี้ จึงเสนอเพลย์บอยไปว่า ถ้าทางเพลย์บอย ยอมตีเช็คเปล่า ที่สามารถกรอกตัวเลขเท่าไหร่ก็ได้มาให้ เกตตี้ก็จะยอมเขียนบทความใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน และบทความของเกตตี้ ก็ได้รวมเป็นหนังสือ J.PAUL GETTY How to Be Rich ที่ขายตีมาตลอดกาล
เดิม พอล เกตตี้ เลือกเรียนระดับปริญญาเพื่อไปเป็นนักการทูต แต่พ่อของเขา จอร์จ เกตตี้ ทนายความที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจขุดเจาะน้ำมันในยุคบุกเบิก อยากลองให้ลูกชายได้รับรู้ถึงความสำเร็จหาเงินก้อนโตได้เร็วจากธุรกิจขุดเจาะน้ำมัน และพอลก็รู้ซึ้งเมื่อเข้าประมูลการลงทุนขุดเจาะน้ำมันมูลค่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินทุนของพอลมีไม่มากพอ จึงใช้ไหวพริบขอเข้าร่วมประมูลโดยใช้ตัวแทนซึ่งเป็นนายธนาคารเพื่อนของพอล
เมื่อคู่แข่งหลายคนคิดว่ามีนายธนาคารจากบริษัทน้ำมันใหญ่เข้าร่วมประมูล เลยไม่มีใครกล้าเข้าร่วมประมูล จึงทำให้พอลชนะประมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันไปด้วยราคาแค่ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาผลิตเพียง 4 วันก็คืนทุน จากนั้นเพียงอายุ 24 ปีพอลสามารถเป็นเศรษฐีร้อยล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้นก็เป็นพันล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วงที่พอลเสียชีวติ คาดมีสมบัติเหลือไว้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 9 หมื่นล้านบาท
สำหรับเคล็ดลับที่ถือว่าใหม่มากเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน ที่เศรษฐีจะออกมาเขียนวิธีสู่ความร่ำรวย 10 ข้อ คือ 1. ควรเริ่มทำธุรกิจในสาขาที่ตัวเองเชี่ยวชาญ 2. ต้องผลิตสินค้าที่คุณภาพตรงความต้องการและมีบริการที่สร้างความประทับใจ 3. รู้จักการประหยัด บริหารต้นทุน 4. อย่าพลาดโอกาสในการขยายธุรกิจ บนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เกิดขึ้น 5.ให้ความสนใจต่อคำว่าธุรกิจของฉัน เช่นเปิดให้เข้าร่วมถือหุ้น สร้างให้เกิดความมีส่วนร่วม 6. พยายามหาข้อมูลเพื่อปรับปรุงสินค้าบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอ 7. เตรียมหาวิธีลดความเสี่ยง 8. บุกเบิกตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง 9. ต้องรักษาชื่อเสียงของสินค้าและความพยายามของตนเอง เคล็ดลับสุดท้าย 10. ไม่เพียงเรียนรู้การหาเงิน ทรัพย์สิน ความร่ำรวย แต่ต้องรู้วิธีทำให้คนอื่นบนโลกมีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ พอล เกตตี้ ได้สรุปช่วงท้ายว่า ปัจจัยที่ทำให้ร่ำรวย ได้แก่ โชค ความรู้ ความพยายาม และ ”การคิดแบบเศรษฐีเงินล้าน คือมีพื้นฐานของจิตสำนึกที่ต้องรู้สึกกังวลถึงเรื่องกำไรและใส่ใจต่อเรื่องค่าใช้จ่าย”
อย่างไรก็ตาม “เคล็ดลับความร่ำรวยทั้งหมด สุดท้ายอยู่ที่การปฏิบัติ ที่สำคัญการสร้างวินัยตั้งแต่ยังเด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ของพอล เกตตี้ ที่ร่ำรวยจากธุรกิจขุดเจาะน้ำมัน ไม่ได้เลี้ยงพอลอย่างลูกคุณหนูทั่วไป พ่อแม่สอนพอลว่า เงินคือสิ่งที่ต้องหามา ตอนเด็กพอลต้องขายหนังสือพิมพ์เพื่อหาค่าขนม เพราะพ่อแม่ให้ค่าขนมน้อยมาก”
จากนั้นตอนอายุ 17 ปี พอล บอกพ่อว่า อยากทำงาน พ่อก็ให้ไปเป็นผู้ช่วยขุดเจาะน้ำมันได้ค่าจ้างวันละแค่ 3 เหรียญสหรัฐต้องทำงานวันละ 12 ชั่วโมง
แต่ด้วยความบ้างาน ทำให้พอล เกตตี้ ล้มเหลวเรื่องครอบครัวต้องหย่าร้างถึง 5 ครั้ง และลูก 5 คน ส่วนใหญ่ไปอยู่กับภรรยา พอลจึงไม่ได้ปลูกฝั่งอบรมลูกตั้งแต่เด็กๆ ให้รู้จักคุณค่าการหาเงินการใช้จ่าย เหมือนที่พอลได้รับการอบรมมา จึงทำให้การรักษาความมั่งคั่งของเกตตี้ให้อยู่ยั่งยืนด้อยลงไป คนทั่วไปจึงไม่ค่อยรู้จักมหาเศรษฐีเกตตี้ เหมือนตระกูล เช่น ร็อกกีเฟลเลอร์ ตระกูลบัฟเฟตต์ ตระกูลเกตส์ ยกเว้นคนอเมริกันที่ยังจำกัดได้
ปัจจุบัน 10 เคล็ดลับความร่ำรวยของบิลเลี่ยนแนร์ พอล เกตตี้ หลายข้อยังนับว่าทันสมัย ถ้าหากนำไปปฏิบัติจริงจัง มีความพยายาม ความปรารถนา ก็เชื่อว่าน่าจะสร้างความมั่งคั่งได้ เพราะอย่างที่บอก ถ้าอยากเป็นเศรษฐี ให้ศึกษาประวัติและทำตามเศรษฐี
โดย - คนฝั่งธนฯ