เปิดแผนลงทุน 3 แสนล้านบาท ปั้นภูเก็ตเป็นเมืองไมซ์ระดับเอเซีย ดูดนักท่องเที่ยว เตรียมอัพเกรดถนนป่าตองเดินได้ 100% พ่วงขยายช็อปปิ้งมอลล์ เผยที่ดินป่าตองตอนนี้ไร่ละ 6 ร้อยล้านบาท จ่อพุ่งกระฉูดหลังปรับผังเมืองใหม่ ด้านอสังหาฯ มิ๊กยูสคึก รับผังใหม่ให้สร้างตึกสูง 15 ชั้นริมทะเล-ใจกลางเมือง 25 ชั้น
นายฐาปนา บุณยประวิตร (Thapana Boonyapravit) นายกสมาคมการผังเมืองไทย (Thai Association for Town Planing) เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับลำดับที่ 35 ของโลก ดังนั้นจึงมีศักยภาพที่จะเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) ของประเทศไทยตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัดได้จัดทำกฎบัตรไมซ์เพื่อผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเมืองไมซ์นานาชาติระดับเอเซีย พร้อมมีการชี้แจงแผนลงทุนมูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท เริ่มจากการลงทุนพัฒนาพื้นที่เทศบาลป่าตอง 2 พันล้านบาท ในช่วง 3 ปี
จากการบรรยายของผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นมีแผนลงทุน ศูนย์ประชุมใหญ่ 4 แห่ง ขนาด 75,000 ตร.ม. รองรับได้ 3,000 คน/แห่ง รวมปริมาณการรองรับทั้งหมดราว 30,000 คน/วัน ควบคู่ไปกับการเพิ่มสัดส่วนลงทุนหอประชุมในจังหวัดอีก 15% ต่อปี ส่วนการประเมินตัวเลขลงทุนศูนย์ประชุมอยู่ที่ 250 ล้านบาท ต่อการรองรับ 7,000 คน ดังนั้นการรองรับ 30,000 คนต่อวัน ต้องลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท
ส่วนด้านการลงทุนที่อยู่อาศัยรวมทั้งสิ้น 70,000 ยูนิต วงเงินลงทุนรวม 2.8 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี หรือเฉลี่ยยูนิตละ 4 ล้านบาท เมื่อประเมินจากค่าก่อสร้างโรงแรม แบ่งเป็น 1. การลงทุนที่อยู่อาศัยและคอนโด 10,000 ยูนิตในช่วง 5 ปีแรก และเพิ่มเป็น 30,000 ยูนิตใน 5 ปีถัดไป 2. การลงทุนบ้านราคาต่ำ (Affordable House) 20,000 ยูนิตในช่วงแรกและเพิ่มเป็น 40,000 ยูนิตในช่วง 5. ปีหลัง จะเป็นการดีหากรัฐบาลส่งเสริมกองทุนด้านที่อยู่อาศัย
ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวนั้นภาคขนส่งสาธารณะ รายงานว่า ในอนาคตภายใน 5 ปี จะพัฒนาเขตชายหาดป่าตองให้พร้อมเป็นมิตรนักท่องเที่ยว (Tourism-Friendly) ได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนส่งเสริมเขตไมซ์ (MICE District) ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นตั้งเป้าพัฒนาถนนและขอบทางให้สามารถเดินเท้าได้ (Walkable) 100% มีโครงข่ายทางเดินเชื่อมต่อ รวมถึงการทำช่องจราจรสำหรับจักรยาน (Bicycle Lane) นอกจากนี้ยังมีแผนขยายถนนสายหลักจากสนามบินไปยังเมืองภูเก็ต ตลอดจนเพิ่มความถี่รถเมล์สายเดิมและเพิ่มรถเมล์สายใหม่
ส่วนด้านการพัฒนาย่านการค้าธุรกิจและร้านอาหาร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรองรับเมืองไมซ์นั้น ตอนนี้ห้างศูนย์การค้าจังซีลอนมีแผนลงทุน 2,000 ล้านบาท 30 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์และร้านค้า นอกจากนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN ยังมีแผนที่จะเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
นายฐาปนา กล่าวต่อว่า การพัฒนาเมืองไมซ์และปรับแผนผังเมืองจะส่งผลให้เกิดการพลิกโฉมเศรษฐกิจของจังหวัดโดยเฉพาะด้านการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับราคาที่ดินในอนาคตอันใกล้จะเพิ่มเป็น 2-3 เท่า ปัจจุบันราคาที่ดินป่าตองไร่ละ 500-600 ล้านบาทจากเดิมที่เคยตกไร่ละ 350 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ส่วนด้านการปรับผังเมืองคาดว่าจะมีการบังคับใช้ปลายปี 2563 จะก่อให้เกิดอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส (Mixed-Use) และเกิดอาคารสูงริมทะเลและในเมืองภูเก็ต ปัจจุบันผังเมืองกำหนดความสูงอาหารใกล้ชายหาดไว้ที่ 12 เมตร ขณะที่ผังใหม่ให้ความสูงถึง 45 เมตร คิดเป็นตึก 15 ชั้น ส่วนความสูงอาคารในเมืองจะอยู่ที่ 60 เมตร (ตึก 20 ชั้น) และ ความสูง 75 เมตร (ตึก 25 ชั้น) ตามลำดับ จากปัจจุบันที่จำกัดความสูงแค่ 20-30 เมตร
ทั้งนี้ ด้านการลงทุนภาครัฐนั้นมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานราว 1.25 แสนล้านบาท ได้แก่ สนามบินภูเก็ตแห่งที่สอง วงเงิน 7 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้ารางเบาเชื่อมสนามบิน-ตัวเมืองภูเก็ต วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท และโครงการทางด่วนกะทู้-ป่าตอง วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นเมื่อสนามบินมีความพร้อมประกอบกับระบบขนส่งมวลชนทั่วถึง จะยิ่งส่งเสริมให้ภูเก็ตติดอันดับเมืองไมซ์ในภูมิภาค
ด้านกฎบัตรไมซ์มีแผนพัฒนาเมืองภูเก็ต รวม 6 ประการ ดังนี้คือ
1. พัฒนาเครือข่ายไมซ์และการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานดึงดูดการประชุมนานาชาติ และผู้เยี่ยมเยือนคุณภาพเข้ามายังพื้นที่เมืองป่าตอง
2. ยกระดับกิจกรรมเศรษฐกิจสีเขียว ด้านการค้าปลีก การบริการ การศึกษา การเงิน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและนิเวศเมือง
3. การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งสีเขียว สร้างเมืองป่าตองเป็นเมืองแห่งการเดิน
4. พัฒนาที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกระดับรายได้ เพิ่มโอกาสในการซื้อหาและการครอบครองที่อยู่อาศัย
5. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น การระบายน้ำ การพัฒนาโครงข่ายทางธรรมชาติ ชายหาด พื้นที่ธรรมชาติป่าเขา และการสร้างระบบการป้องกันอุบัติภัย
6. การปรับปรุงฟื้นฟูเมือง การพัฒนาย่านใจกลางเมืองเป็นศูนย์ไมซ์นานาชาติ การฟื้นฟูชนดั้งเดิม การเพิ่มพื้นที่สีเขียว