อีอีซี จับมือ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมระดับโลก ซิสโก้ - มาเวเนีย -5จีซีที -แพลนเน็ตคอม เดินหน้าพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G สร้างอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่อีอีซี ตั้งเป้าสร้างคน ตรงความต้องการอุตสาหกรรมดิจิทัล 40,000 คนภายใน 3 ปี ดึงการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เสริมแกร่งเศรษฐกิจไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างแรงงานไทยทักษะสูง รายได้ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ร่วมกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาเวนเนีย ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด และบริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ 5G แก่ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี (5G & Digital Talent Development in EEC)" ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี มร.ไมเคิล ฮีธ อุปทูต รักษาการแทน เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยาน โดย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี และ ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานทั้ง 4 แห่งดังกล่าวร่วมกันลงนาม ฯ พร้อมด้วย ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร (EEC HDC) ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านพัฒนาการศึกษา บุคลากรและเทคโนโลยี สกพอ. และผู้บริหารมหาวิทยาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษา สถาบันการศึกษาในพื้นที่อีอีซี เข้าร่วมงานกว่า 100 ราย
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า การจัดงาน ฯ ครั้งนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดีด้านการลงทุนระหว่างไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สหรัฐ ได้ลงทุนในไทยสูงถึง 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2563 มีการลงทุนตรงกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือพัฒนาธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอีอีซี และขับเคลื่อนคู่ไปกับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ตามแผนลงทุนอีอีซี ระยะ 2 ที่จะให้มีมูลค่าการลงทุนรวมไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านล้านบาท เน้นการลงทุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมการแพทย์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล 5G
การลงนามฯ วันนี้ ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือ เพื่อผลักดันส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 5G ต่อเนื่อง จากที่อีอีซีได้ร่วมกับภาคเอกชนทั้ง 4 บริษัทดังกล่าว นำร่องใช้เทคโนโลยี 5G ในเทศบาลตำบลบ้านฉาง สู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart city) ที่ได้เริ่มปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั้งหมด โดยคาดว่าในสิ้นปี 2564 จะเกิดการติดตั้งเสา 5G smart pole แล้วเสร็จรวม 160 ต้น ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่บ้านฉางทั้งหมด นำร่องสู่โรงงานอัจฉริยะ Factory 4.0 ก้าวสู่เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชมบ้านฉางครบมิติ โดยความร่วมมือ ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเชื่อมโยงการพัฒนาทักษะบุคลากร ควบคู่การส่งเสริมประยุกต์ใช้ดิจิทัล และ 5G แก่ภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้าหมายพัฒนาทักษะบุคลากร ทั้งด้านเพิ่มทักษะใหม่ ยกระดับ ปรับทักษะบุคลากร New – Up-Re skill ตามแนวทางสร้างคนให้ตรงกับความต้องการ (Demand Driven) ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ภายใน 3 ปี เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ยกระดับรายได้แรงงานไทย ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างสมดุลและยั่งยืน
ดร. ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านการพัฒนาบุคลากรฯ สกพอ. กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญ ช่วยสนับสนุนและขยายโอกาสการสรรค์สร้างบริการดิจิทัลให้กว้างขวาง ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยความเร็วสูงของสัญญาณ 5G ให้การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ มีความแม่นยำสูงและความผิดพลาดน้อยที่สุด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งปัจจุบัน อีอีซีได้ขับเคลื่อนคู่ไปกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสู่โรงงานอัจฉริยะ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง Digital Manufacturing 4.0 ไม่น้อยกว่า 10,000 โรงงาน ภายใน 5 ปี โดยบุคลากรในพื้นที่ อีอีซี จะได้รับการถ่ายทอดความรู้จากพันธมิตรที่ลงนามความร่วมมือในวันนี้ เพื่อสร้างความพร้อม และจูงใจผู้ประกอบการทั่วโลกให้สนใจลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัล ในพื้นที่อีอีซี ต่อไป
ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร (EEC HDC) กล่าวว่า อีอีซี ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบุคลากรร่วมกับหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อยกระดับทักษะบุคลากรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ ได้ต่อยอดความสำเร็จจากการร่วมกับ 4 พันธมิตรดังกล่าว พัฒนาบุคลากร ยกระดับทักษะด้านดิจิทัล ที่จะเร่งเดินหน้าผลิตคนให้ตรงความต้องการอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ตามแนวทาง Demand driven ต่อไป โดยที่ผ่านมา อีอีซี ได้มีการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ MOU ที่สำคัญ ๆ ไปแล้ว เช่น หลักสูตร 5G ICT และ Digital ภายใต้ Huawai ASEAN Academy ดำเนินการอบรมทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล 30,000 คนภายใน 3 ปี ความร่วมมือ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ผลักดัน EEC Automation Park เน้นการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ เป้าหมาย 8,000 โรงงานในอีอีซี เป็นต้น
ด้าน นายทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) ผู้นำทางด้านไอทีและระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระดับโลก กล่าวว่า ซิสโก้ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างทักษะใหม่ (Reskill) ที่จำเป็นในการทำงาน และการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะเดิม (Upskill) ให้ดีขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการทำงาน และสร้างฐานความรู้ด้านต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายและความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมและระบบขนส่งอัจฉริยะ ระบบไร้สายแบบต่างๆสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและเมืองอัจฉริยะ ระบบศูนย์ข้อมูล ตลอดจนระบบบริหารจัดการเครือข่ายที่ควบรวมทั้ง IP และ 5G ให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นต้น โดยบริษัทฯ พร้อมจะร่วมพัฒนาแรงงานยุคใหม่ (New Workforce) ที่มีศักยภาพสูง พร้อมผลักดันองค์กรธุรกิจให้เติบโต พร้อมรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ
มร.นอร์แมน โดนัลด์ ไพรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ธุรกิจเกิดใหม่ และ หน่วยธุรกิจองค์กร บริษัท มาเวนเนีย ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า พื้นที่อีอีซี ถือเป็นประตูสู่เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นที่ตั้งของบุคลากรที่สำคัญ และมีความหลากหลายครบวงจร มีสภาพแวดล้อมที่มีการพัฒนาต่อเนื่องและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทมาเวเนียฯ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายแห่งอนาคต ด้วยซอฟต์แวร์คลาวด์เนทีฟ ระบบคลาวด์ที่ทำงานบนคลาวด์ใดๆ และเปลี่ยนแปลงวิธีการเชื่อมต่อสื่อสารในโลกปัจจุบัน การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นการขับเคลื่อนในระดับในภูมิภาคนี้ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างแรงงานให้มีด้วยทักษะที่จำเป็น และแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของเทคโนโลยี 5G ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นางสาวชาริณี กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด กล่าวว่า ความท้าทายระดับโลกและวิกฤตโควิด-19 ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของ Digital Transformation ที่มีต่อทุกธุรกิจ และความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของแรงงานให้พร้อมปรับตัว เพื่อใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะของตัวแทนบริษัทขนาดย่อมและสตาร์ทอัพ จะทำหน้าที่เป็นสะพานในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ปรับใช้กับธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างไร้รอยต่อ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญต่อการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบการ ธุรกิจสตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานใหม่ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลบนโครงข่าย 5G ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่ทำให้เทคโนโลยีหลากรูปแบบทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และส่งต่อประโยชน์ทางอาชีพและเศรษฐกิจ ไปถึงประชาชนแบบยั่งยืน ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทฯ พร้อมจะจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและนำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถแก้โจทย์ของเมืองและอุตสาหกรรมได้ และตั้งเป้าจัดโครงการฝึกอบรม 5G Connected Tech เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรปีละ 300 คนด้วย
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เน้นสร้างฐานความรู้และแพลตฟอร์มสำหรับ Smart City Data Platform และ IOT Platform ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนด้านการศึกษาในพื้นที่อีอีซี และช่วยให้ EEC HDC ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ด้านเทคโนโลยี และการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพื่อยกระดับการฝึกอบรมเพิ่มทักษะบุคลากร ด้วยหลักสูตรมาตรฐานสากลรองรับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกผลักดันให้ไทยก้าวสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน