นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) หรือ BANPU ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา บริษัท BKV-BPP Power LLC (BKV-BPP) เป็นบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 50% ถือหุ้นโดยบริษัท BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BANPU ถือหุ้น 96.3% และ Banpu Power US Corporation (BPPUS) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ได้เข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ซึ่งถือหุ้น 100% ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ขนาดกำลังการผลิต 768 เมกะวัตต์ ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่าการลงทุน 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 14,298 ล้านบาท
“การลงทุนซื้อโรงไฟฟ้าฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 เป็นต้นไป”
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวจะทำให้ BANPU รับรู้กำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสัดส่วนทั้ง 100% หรือรวมทั้งสิ้น 768 MW โดยโรงไฟฟ้า Temple I เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์รวมเศรษฐกิจและประชากรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศสหรัฐอเมริกา
โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าครอบคลุมกว่า 750,000 ครัวเรือนในตอนกลางของรัฐเท็กซัส โดยมีการติดตั้งระบบการจัดการมลภาวะให้อยู่ในระดับต่ำ มีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่นในการเดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้า ให้สอดรับกับรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้า อยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้าที่ดีซึ่งเหมาะกับสภาพและการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีของ Electric Reliability Council of Texas
อย่างไรก็ดี การลงทุนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ เพื่อการเติบโตธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และ ธุรกิจไฟฟ้า ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน โดยส่งมอบพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเสถียรภาพในการผลิต มีความต่อเนื่องในการส่งมอบพลังงาน และราคาสมเหตุสมผลสามารถเข้าถึงได้โดยกระจายอยูในหลากหลายประเทศในภูมิภาคแถบมหาสมุทรแปซิฟิก
การร่วมลงทุนในครั้งนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนวกกำลัง (synergy) ระหว่าง BKV และ BPP ซึ่งทั้งสองบริษัทฯ เป็น Flagship ที่สำคัญภายใต้กลุ่ม BANPU โดยผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และทรัพยากรที่มีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการลงทุน ซึ่ง BKV 1ใน 20 ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติทั้งการบริหารจัดการ (Operational management) แหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ การติดต่อประสานงานกับทางภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านธุรกิจพลังงาน รวมไปถึงการดูแลชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและมีความเข้าใจในตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีของตลาด ERCOT
ขณะที่ BPP มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค (technical know-how) และมุ่งเน้นการพัฒนาลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ High Efficiency, Low Emission (HELE) ซึ่งมีเป้าหมายการเติบโตอย่างชัดเจน การร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตามโครงสร้างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นได้ผ่านการพิจารณาอย่างครอบคลุมรอบด้าน โดยคำนึงถึงความสามารถในการเพิ่มศักยภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างสูงสุดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น