สกพอ. จับมือ ธนาคารไอซีบีซี ลงนาม MOU เร่งเครื่องส่งเสริมการลงทุน เพิ่มโอกาสทางการเงิน จูงใจภาคเอกชนผู้ประกอบการศักยภาพสูง ร่วมขับเคลื่อนลงทุนนวัตกรรมใหม่ในพื้นที่อีอีซี เสริมแกร่งลงทุน 4 แกนนำอุตสาหกรรมคู่ผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
วันนี้ (24 พย.2564) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) สร้างความร่วมมือและส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีพร้อมผลักดันการลงทุนระหว่างนักลงทุนจากประเทศจีน และประเทศไทย โดยมี นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี และ นายเสี่ยวปอ หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกันลงนาม ณ ห้องประชุม Conference Room สำนักงานอีอีซี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงาน และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานรวมประมาณ 100 คน ผ่านระบบประชุมออนไลน์
โดยความร่วมมือตาม MOU ระหว่าง สกพอ. และ ไอซีบีซี ในครั้งนี้ จะมีระยะเวลา 3 ปีที่จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือ และสนับสนุนกิจกรรมที่สำคัญๆ จากทั้งสองฝ่าย ได้แก่
1) สร้างโอกาสทางธุรกิจ ส่งเสริมการลงทุน และอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในพื้นที่อีอีซี ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย สถานการณ์ตลาด นโยบายที่สำคัญจากภาครัฐ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีศักยภาพ การสนับสนุนให้คำปรึกษา และให้บริการทางด้านการเงินของธนาคารไอซีบีซี รวมถึงสร้างความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
2) ส่งเสริมการลงทุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ในพื้นที่ อีอีซี ต่อยอดการลงทุนให้กับภาคเอกชนไทย ผ่านการสนับสนุนของธนาคารไอซีบีซี อำนวยความสะดวกการให้คำปรึกษา และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนร่วมกัน กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนจีนและไทย เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ได้อย่างต่อเนื่อง
3) สร้างความร่วมมือและศึกษาการจัดตั้งและพัฒนากองทุนรวมตราสารทุน หรือ EEC Equity Fund เพื่อขยายผลและสร้างโอกาสการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ในโครงการที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพขับเคลื่อนการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี โดยเฉพาะการลงทุนภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ 4 แกนธุรกิจ ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ 2) อุตสาหกรรมดิจิทัล 3) Decarbonization ซึ่งครอบคลุมเรื่องยานยนต์สมัยใหม่หรือ EV ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Smart Mobility และ (4) อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงกับแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Green and Circular Economy) ผลักดันให้ อีอีซี ก้าวสู่พื้นที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นเทรนด์สำคัญของโลกเพิ่มแรงจูงใจและรองรับธุรกิจที่จะมาลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งการลงนามความร่วมมือฯ ครั้งนี้ จะเสริมประสิทธิภาพนักลงทุน เกิดความคล่องตัวด้านการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี เพิ่มโอกาสการลงทุนเพื่อยกระดับการแข่งขัน สร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ด้าน นายเสี่ยวปอ หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคารไอซีบีซี กับ สกพอ. ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของธนาคารในการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ที่เป็นความร่วมมือต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 จากการที่ธนาคารไอซีบีซี ประเทศจีน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน โดยพร้อมจะทำหน้าที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน ส่งเสริมนักลงทุนที่มีศักยภาพให้เข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ อีอีซี
รวมไปถึงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มบริษัทจากประเทศจีนที่มีความสนใจ ผ่านเครือข่ายของธนาคารไอซีบีซี ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีเครือข่ายสาขามากกว่า 16,000 แห่งทั่วประเทศจีน และเครือข่ายครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ทั้งยังมีฐานลูกค้า Corporate ณ เดือนมิถุนายน 2564 มากกว่า 9.24 ล้านราย รวมทั้งธนาคารจะให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้พื้นที่ อีอีซี พร้อมกันนี้ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เป็นธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย หรือ RMB Clearing Bank in Thailand จะทำให้ธนาคารมีศักยภาพในการให้บริการผลิตภัณฑ์และธุรกรรมเงินหยวนที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนชาวจีนได้อย่างครบถ้วน