เอไอเอส ย้ำจุดยืน Digital Life Service Provider ที่เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 32 ยืนยันสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทุกภาคส่วน เสริมความแข็งแกร่ง และยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดตัวโครงข่ายอัจฉริยะ AIS Fibre รายแรก และรายเดียวในเมืองไทย ที่ทำความเร็วเน็ตบ้านได้ถึง 2 Gbps ตอบสนองความต้องการจากวิถีชีวิตยุค NEW NORMAL รวมถึงเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมสูงสุด เดินหน้าสร้างนวัตกรรมพาไทยสู่ที่ 1 โลกต่อเนื่อง
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส แถลงในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 32 ของการให้บริการว่า “เราไม่เคยเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อประเทศ พร้อมส่งต่อความเชื่อมั่นให้แก่ทุกภาคส่วนว่า โครงข่ายและบริการ Digital จากเราจะยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และช่วยสนับสนุน ยกระดับวิถีชีวิตประชาชน และรูปแบบการบริหารจัดการของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่ผ่านมา เอไอเอส ได้ใช้งบประมาณเพื่อร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมประเทศไปแล้ว กว่าล้านล้านบาท แบ่งเป็นส่งมอบเงินให้ประเทศ 523,000 ล้านบาท และลงทุนเครือข่ายและใบอนุญาตกว่า 481,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายใต้บริบทของโลกใหม่ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับตัวเพื่อให้มีความพร้อมก็เป็นสิ่งที่เราได้เตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การประกาศเคลื่อนตัวจาก Telecom Operator สู่ Digital Life Service Provider เมื่อ 6 ปีก่อน และล่าสุดยกระดับสู่ Cognitive Telco ที่นอกจากจะมุ่งมั่นกับ 3 เป้าหมายหลัก คือ
1. เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุดเสมอจากธุรกิจไร้สายปัจจุบัน
2. ต่อยอดกลไกแห่งการเติบโตผ่านธุรกิจเน็ตบ้าน และบริการลูกค้าองค์กร
3. ลงทุนในธุรกิจดิจิทัลเพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต การจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนสู่อนาคตในฐานะ Cognitive Telco ต้องไม่หยุดเพิ่มพูน ปรับประยุกต์ ผสมผสาน องค์ความรู้เดิมจากประสบการณ์ในฐานะผู้ให้บริการอันดับ 1 เข้ากับนวัตกรรมดิจิทัลระดับโลก เพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่อย่างสอดคล้องกับ New Normal ของโลกนี้ให้แก่คนไทยอย่างดีที่สุด ดังเช่น ล่าสุดกับการเดินหน้ายกระดับโครงข่ายไฟเบอร์ ซึ่งถือเป็นหัวใจของ Digital Infrastructure สู่ 2 Gbps เป็นรายแรกของไทย เช่นเดียวกับ การพัฒนานวัตกรรมโครงข่าย 5G จนปัจจุบันครอบคลุมสูงสุด อันถือเป็นการปฏิบัติตามพันธกิจในฐานะผู้รับใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ ที่จะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อคนไทยเสมอ
พร้อมกันนี้ ซีอีโอเอไอเอสยังกล่าวถึง “บิ๊กดีล” ใหญ่ระหว่าง ทรู กับ ดีแทค ด้วยว่า "เอไอเอสไม่ได้สนใจการควบรวมของคู่แข่ง และไม่สนว่าเป็นอย่างไร สนใจแต่ว่าลูกค้าต้องการอะไร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ดีที่สุด เราเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อมอบประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ทุกภาคส่วน ดังนั้นทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศ หรือระดับโลก ล้วนทำให้พนักงานเกิดการเรียนรู้และปรับตัว รับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างดี โดยเป้าหมายของการก้าวสู่ Cognitive Telco เป็นสิ่งยืนยันว่า องค์ความรู้ และ ประสบการณ์ จะถูกนำมาหลอมรวมเพื่อลูกค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ เพื่อตอกย้ำว่า การเลือกอยู่กับเอไอเอสดีที่สุดเสมอ”
ด้าน นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS อธิบายเกี่ยวกับทิศทางของการพัฒนาเน็ตเวิร์คเพื่อคนไทยต่อไปอีกว่า AIS เป็นรายแรกที่ประกาศเปิดตัวการให้บริการ 5G หลังได้รับใบอนุญาตเพียงไม่กี่วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ จนถึงปัจจุบัน AIS 5G ให้บริการแล้ว ด้วยความครอบคลุมสูงสุดทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90% ในเขตกรุงเทพฯ ครอบคลุม 100% ในพื้นที่ EEC เพื่อมอบประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศชาติ โดยไม่เคยหยุดนำนวัตกรรมมายกระดับโครงข่ายด้วยเทคโนโลยีล่าสุดระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น mmWave ด้วยความเร็วถึงระดับ 4 กิกะบิตต่อวินาที และ 5G CA ครั้งแรกของโลก รวมถึง Voice over 5G New Radio (VoNR) ให้โทรชัดใสได้บนเครือข่าย 5G SA รายแรกในไทย รวมไปถึงประสบการณ์ใช้งานในด้านอื่นๆ ทั้งความครอบคลุม, ความเร็ว, การเชื่อมต่อกับ IoT Device ตลอดจนอัตรา latency ที่เอไอเอสโฟกัสเพื่อรักษาคุณภาพที่เป็นเลิศอยู่ตลอดเวลา
“ซึ่งแน่นอน AIS 5G ต้องสามารถเสริมศักยภาพให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้อย่างดีด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับนานาชาติ ที่ผ่านมา ได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้วันนี้เริ่มมีการนำเครือข่าย 5G Private Network มาให้บริการจริงแล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้าง Business Process รูปแบบใหม่ๆ หรือ ช่วยการทำ Digital Transformation ในองค์กรแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสในการลดค่าใช้จ่ายและข้อได้เปรียบเกี่ยวกับอัตราภาษีให้แก่บางอุตสาหกรรมอีกด้วย”
นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า การเข้าสู่ธุรกิจเน็ตบ้านของ AIS เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้สร้างปรากฏการณ์ซึ่งพลิกโฉมของตลาดเน็ตบ้านไปอย่างสิ้นเชิง ให้เน้นที่คุณภาพและนวัตกรรม จากการเปิดตัวอินเทอร์เน็ตบ้าน ความเร็วสูงสุด 1 Gbps รายแรก และรายเดียวที่ให้บริการไฟเบอร์แท้ 100% พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ของการแข่งขันที่มุ่งไปที่คุณภาพ และประสบการณ์การใช้งานมากกว่าแข่งกันที่ราคา ซึ่งไม่เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคอย่างยั่งยืน
นวัตกรรมของ AIS Fibre ที่คิดนำ ทำก่อน เพื่อลูกค้า อาทิ Mesh WiFi Solution, บริการ Speed Toggle, แพ็คเกจ BYOD และล่าสุดที่พวกเรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งคือ สามารถพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่ต้อง Work From Home, Learn From Home, Play From Home พร้อมกันด้วยความเร็วแรงระดับ 2 Gbps ส่งตรงสู่บ้านลูกค้าได้อย่างเต็มสปีดก่อนใคร