ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า นายกมล ศิริจันทร์ รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) กล่าวว่า ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟท. เพื่อให้เปิดเผยข้อมูลสัญญา เงื่อนไข ในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และข้อมูลรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโครงการและรวมถึงข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ สร.รฟท. และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ให้เห็นถึงสาระสำคัญข้อเท็จจริงและรายละเอียดของโครงการนี้สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ สร.รฟท. ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานในการให้ความร่วมมือและดำเนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและรักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 มาตรา 40(4) และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับ รฟท. ดังเช่นค่าเสียหายจากกรณียกเลิกสัญญากับบริษัทโฮปเวลล์“เนื่องจากกรณีรถไฟไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. มีมูลค่าโครงการสูงถึง 2.24 แสนล้านบาท และจะมีการลงนามสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) หลังจากได้รับการอนุมัติอีไอเอวันที่ 24 มิถุนายนนี้ไปแล้วทางสหภาพฯให้ความสำคัญและติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด”นายกมล กล่าวอีกว่า ยังเป็นห่วงเรื่องการส่งมอบพื้นที่ เนื่องจากเรื่องการส่งมอบพื้นที่ยังต้องเจรจากันอีก จากกรณีปัญหาข้างต้นจะดำเนินการเจรจาตั้งแต่ดอนเมือง-อู่ตะเภาซึ่งมีหลายประเด็นต้องหารือร่วมกัน อาทิ มีผู้บุกรุกกี่จุด ช่วง กม.ใดบ้าง ติดปัญหาสัญญาเช่ากี่จุด ส่วนช่วงดอนเมือง-บางซื่อ ซึ่งทับซ้อนกับรถไฟไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น ตลอดจนช่วงสถานีจิตรลดาที่ทับซ้อนกับรถไฟสายสีแดงนั้น ซีพีจะต้องก่อสร้างไปก่อนโดยเผื่อสายสีแดงแล้วค่อยใช้คืนทีหลังในส่วนกรณีเสาตอม่อโฮปเวลล์จะต้องดำเนินการรื้อย้ายอย่างไร เช่นเดียวกับพื้นที่เวนคืนส่วนใหญ่ที่ฉะเชิงเทราขณะนี้รอออกประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืน พื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีเวนคืนที่ดิน 850 ไร่ และสิ่งปลูกสร้าง 245 หลัง วงเงิน 3,570 ล้านบาท“จุดที่มีปัญหาจะต้องใช้ระยะเวลาในการจัดการก่อนส่งมอบ โดยมีระยะเวลาภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามการรื้อย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อยู่ในความรับผิดชอบของซีพี ส่วน รฟท. จะรับผิดชอบเรื่องการย้ายผู้บุกรุก รวมถึงเสาตอม่อโฮปเวลล์ด้วย”สำหรับพื้นที่ที่จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ (TOD) ทั้งหมด 150 ไร่ของแปลงมักกะสันนั้นจะส่งมอบส่วนแรก 100 ไร่ก่อน ส่วนอีก 50 ไร่ที่เหลือจะทยอยส่งมอบภายใน 5 ปีซึ่งโครงการนี้รัฐลงทุน 1.4 แสนล้านบาท หากส่งมอบพื้นที่ไม่ได้จะเกิดความเสียหายต่อ รฟท. ดังนั้นจึงต้องเปิดเผยข้อมูลสัญญาต่อสาธารณะให้เห็นถึงสาระสำคัญและรายละเอียดของโครงการเนื่องจากไม่ต้องการให้ซ้ำรอยคดีโฮปเวลล์นั่นเอง