ทำเอารัฐนาวาของรัฐบาล "บิ๊กตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว หลังต้องฝ่าขวากหนามและวิบากกรรมสารพัด ในการหวนกลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 The Man Return ..ถึงระส่ำ!
ลำพังแค่การช่วงชิงโควตารัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ก็ทำเอานายกฯ ลุงตู่ แทบจะควานหายาพารามาโด๊ปสักกำมืออยู่แล้ว นี่ยังมาเจอกับ "ฤทธิ์เดชกลุ่มสามมิตร" ที่เปิดหน้าออกมาเป็น "คลื่นใต้น้ำ" ภายในพรรคแกนนำหลักอย่าง พปชร. เข้าด้วยอีก!
โดยเฉพาะกับการที่กลุ่มสามมิตรพยายามจะผลักดัน "รมต.ปุ้ดโธ่ - นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เข้ามาเป็นแคนดิเดตของกลุ่ม เพิ่มเติมจากที่มี "ลูกพี่ใหญ่" อย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อยู่แล้ว โดยพยายามผลักดันข้ามห้วยเข้ามาแซะหลายกระทรวง ก่อนจะมาลงเอยเอาที่ "กระทรวงพลังงาน"
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายสุริยะเองเคยประกาศกลางรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ในช่วงที่กลุ่มสามมิตรกำลังเดินสายหาเสียงช่วยพรรค พปชร .สานฝันให้แก่ "นายกฯ บิ๊กตู่" อยู่ว่า จะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ
แต่คล้อยหลังไม่ถึง 3 เดือน กลับมีชื่อ โผล่เข้าไปเป็น "แคนดิเดต" ที่กลุ่มสามมิตรหวังส่งเข้าไปเบียดโควต้ารัฐมนตรี ในกระทรวงพลังงานขึ้นมาซะงั้น!
(อ้างอิงจากคลิปสัมภาษณ์นายสุริยะ: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/837640) ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบไซต์กรุงเทพธุรกิจ..
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของกลุ่มสามมิตรที่พยายาม จะผลักดันนายสุริยะให้เบียดตัวเข้ามาเป็น รมว.พลังงานนั้น ไม่เพียงจะทำเอาแคนดิเดต รมว. พลังงานเดิม ที่พรรควางตัว นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้า พปชร. เอาไว้แต่แรก ถึงกับ "นั่งไม่ติด" ต้องวิ่งวุ่นไหว้วานผู้ใหญ่ภายในพรรคให้ลงมาเคลียร์หน้าเสื่อให้
ก่อนที่ในท้ายที่สุด นายกฯ จะตัดสินใจเลือกเอานายณัฏฐพลเอาไว้ จนทำเอา "รมต.ปุดโธ่" ต้อง "หลุดโผ" จนเจ้าตัวเกิดอาการน้อยใจถึงกลับตีตั๋วบินปร๋อไปต่างประเทศเพื่อหลบเลียแผลใจในทันที!
กรณีแนวคิดในการผลักดันนักการเมืองชื่อก้องรายหนึ่งให้ "ข้ามห้วย" เข้ามาเบียดเก้าอี้รัฐมนตรีดังกล่าว ไม่เพียงแต่ทำเอาแกนนำคนอื่นๆ ภายในพรรคระส่ำแล้ว ยังทำเอาข้าราชการพลังงาน และผู้บริหารบริษัท ปตท. รัฐวิสาหกิจที่ถือเป็น "อู่ข้าวอู่น้ำ" ของกระทรวงพลังงานถึงกับนั่งไม่ติดไปด้วย!
เพราะมีเรื่องเล่าถึง "วีรกรรม" อดีตรัฐมนตรีหน้าใหม่คนหนึ่ง ที่จับพลัดจับผลูโชคบุญวาสนาหล่นทับโครมใหญ่ จนได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมในอดีต ซึ่งยังเป็นช่วงที่ยังไม่มีการแยกกระทรวงพลังงานออกมานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักการเมืองหนุ่มรายนี้ที่เคยคลุกคลีตีโมง อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมและพลังงานมานาน และยังมีเครือข่ายผู้บริหาร ปตท. ในยุคนั้นอยู่ในมือพอสมควรนั้น
วีรกรรมในอดีตของเจ้าตัวที่มีการเล่าปากต่อปากจากข้าราชการ ผู้บริหาร ปตท. จากรุ่นสู่รุ่น..จากยุคสู่ยุคนั้น ระบุว่า “หากรัฐมนตรีผู้นี้จ้องจะเอาโครงการใดแล้ว เป็นไม่เคยพลาด อย่างในช่วงที่นำกิจการบริษัท ปตท. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ก็มีข่าวนักการเมืองใหญ่ในอุตสาหกรรมขอหุ้น IPO ปตท. และในกลุ่ม ปตท. ไปเป็นจำนวนมาก” จนป่านนี้ก็ยังคงมีการพูดถึงกันไม่หยุดหย่อน
นอกจากนี้ ยังมีวีรกรรมในห้วงที่บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้เข้าซื้อแหล่งน้ำมันจากบริษัทหนึ่งในอาเซียน ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมปรกติ แต่ก็มีกระแสข่าวสะพัดว่า มีนักการเมืองใหญ่ที่คุมนโยบายอุตสาหกรรมในเวลานั้น เรียกบริษัทผู้ขายไปพบ และขอค่าตอบแทน แต่ก็ถูกปฏิเสธ แม้จะไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะยินยอมจ่ายหรือไม่จ่ายอย่างไร แต่เรื่องนี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันสะพัด
พฤติกรรมในการแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในกระทรวงอุตสาหกรรม และโดยเฉพาะเมื่อครั้งที่นักการเมืองใหญ่รายนี้ได้รับการปูนบำเหน็จจนก้าวขึ้นไปคุมบังเหียนกระทรวงคมนาคม ที่มีเรื่องจัดซื้อและประมูลอื้อฉาวในสนามบินสุวรรณภูมินับ 10 นับร้อยโครงการนั้น ล้วนเป็นที่รับรู้กันในผู้คนในวงกว้างเป็นอย่างดี ว่าทุกโครงการล้วนมีนักการเมืองเข้าไปบงการชี้นำ โดยเฉพาะโครงการที่ทำเอาเจ้าตัว ”ดังเป็นพลุแตก” จัดซื้อเครื่องตรวจสแกน CTX ในสนามบินสุวรรณภูมิ..
สิ่งเหล่านี้มีการบอกเล่าต่อๆ กันมา เมื่อมีชื่อของนักการเมืองที่เคยคลุกคลีกับเรื่องฉาวเหล่านี้จะกลับมาผงาดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกครั้ง จึงไม่เพียงจะทำเอาข้าราชการในกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารใน ปตท. ที่เคยรู้พฤติกรรมและวีรกรรมของ ”นักการเมืองปากหวาน” คนนี้ดี ถึงกับพากันขนลุกซู่..
ด้วยเชื่อว่า การเข้ามาของนักการเมืองรายนี้จะทำให้นโยบายกระทรวงพลังงานที่มีการวางรากฐานการปฏิรูปไว้อย่างดิบดี วางโร้ดแม็พ การขับเคลื่อนนโยบายพลังงานไว้อย่างดิบดีก่อนหน้านั้น อาจจะถูกลากเข้ารกเข้าพงได้ทุกเมื่อ และคงทำให้กระทรวงพลังงานกลายเป็นจุดโฟกัสที่สนใจของสื่อและสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศแทน
"การเข้ามาของนักการเมืองรายที่ถูกกล่าวถึงพฤติกรรมฉาวโฉ่ในอดีต ไม่เพียงจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนใน ปตท. ยังอาจไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลด้วย เพราะเชื่อว่านโยบายต่างๆ ด้านพลังงานของรัฐบาลที่วางรากฐานเอาไว้ก่อนหน้านั้น จะถูกทบทวนรื้อกระจุยตามมาแน่ ต่างจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลได้สร้างผลงานด้านพลังงานสำคัญๆ ได้ดี ได้รับความไว้วางใจจากคน ปตท. ที่พร้อมจะทุ่มเททำงานให้" แหล่งข่าวใน ปตท. กล่าว
ก็คงเพราะเหตุนี้ จึงมีข่าวว่า นายกฯ ตู่ จึงตัดสินใจเลือกเอานักการเมืองที่จะก้าวมาเป็นรัฐมนตรีที่ฟอร์มสดใหม่มาแทน แม้จะมีภูมิหลังเขามาจากเวที กปปส. แต่ก็ยังดีกว่าจะเลือกเอานักการเมืองเขี้ยวลากดินที่มีอดีตและคดีอื้อฉาวนับสิบคดี มาคุมพลังงาน
อย่างน้อยก็ยังเบาใจได้ว่า นโยบายพลังงาน ที่วางเอาไว้คงจะไม่ถูกหรือยกกะปิเป็นแน่ !
ที่สำคัญ นักการเมืองที่มีชื่อที่มีความหมายว่า ”พระอาทิตย์” ที่ถือเป็นไฟ..ขืนเอาไว้ใกล้กับพลังงานหรือน้ำมัน..ก็มีหวังได้บรรลัยกัลป์เป็นแน่ๆ!
เอวังด้วยประการละฉะนี้!