คลังชี้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนเมษายน 2565 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาล และยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และ นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2565 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนเมษายน 2565 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคทีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาล และยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 72.6 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าแสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ผลิตจากยางพารา อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคบริการในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการปรับเปลี่ยนมาตรการในการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 67.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อจากคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในภาคบริการ เนื่องจากภาครัฐมีการปรับเปลี่ยนมาตรการในการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 65.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และในภาคเกษตร ที่เข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้าวและอ้อย เป็นต้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 63.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากการปรับเปลี่ยนมาตรการในการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น สำหรับในภาคการลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจภาคบริการเริ่มขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 61.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้าวและข้าวโพด เป็นต้น สำหรับภาคการลงทุน ผู้ประกอบการในพื้นที่มีความเชื่อมั่นในการลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 61.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกษตร และในภาคอุตสาหกรรม จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 55.5 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมียอดคำสั่งซื้อสินค้าจากคู่ค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น และในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มขึ้น จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน