หลังร้างราตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ มาตั้งแต่ ปี 2560 ล่าสุด บริษัท สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้อนุมัติแต่งตั้ง “วุฒิภูมิ จุฬางกูร“ กรรมการบริษัท ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และแต่งตั้ง “ประเวช องอาจสิทธิกุล” กรรมการบริษัท เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2562
“วุฒิภูมิ” ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นตัวแทนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ตระกูล “จุฬางกูร“ นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนกแอร์ ที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการจัดทัพผู้บริหารที่สะท้อนให้ถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามแผนฟื้นกิจการโดยเร็ว โดย ”ประเวช“ กล่าวว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและผู้โดยสารไว้วางใจในการใช้บริการของสายการบินนกแอร์
“วุฒิภูมิ จุฬางกูร” ผ่านการอบรมบทบาทหน้าที่กรรมการจากสมาคมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 148/2554 และหลักสูตร Finance for Director (FFD) รุ่นที่ 12/2554 อีกทั้งมีประสบการณ์ด้านการทำงานที่หลากหลายโดยนั่งเป็นกรรมการและผู้บริหาร ทั้งในบริษัทจดทะเบียน และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งด้วยกัน อาทิ เป็นกรรมการ, กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น, กรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ไอร่า แคปปิตอล เป็นต้น
ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา สายการบินนกแอร์ ได้รับมอบใบต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการการค้าขายในการเดินอากาศแบบประจำ มีกำหนดภายในประเทศและระหว่างประเทศ และแบบไม่ประจำ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานนกแอร์ ยังขาดทุนต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรกปี 2562 บริษัทขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวด 391.29 ล้านบาท มีรายได้รวม 5,449.21 ล้านบาท
ด้านความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่าธุรกิจของ นกแอร์ ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นบวกชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของผลประกอบการปีนี้ที่คาดว่าคงไม่มีทางที่จะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจากการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่ยังคงค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่อง มานานหลายปี ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันเรื่องการตัดราคากันค่อนข้างมาก ฉุดให้อัตรากำไรของแต่ละสายการบินก็ยังคงอ่อนแอ
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินว่า ธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำของ นกแอร์ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง เนื่องจากหากพิจารณาส่วนแบ่งการตลาดด้านสายการบินต้นทุนต่ำ ยังอยู่ในอันดับ 2 ของสายการบินภายในประเทศ ตลอดจนถึงยังมีเส้นทางการบินเส้นหลัก ที่ยังคงมีการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอัตราระวางการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยสูงถึง 70-80 %
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเรื้อรังของนกแอร์ ยังคงอยู่ที่ภาวะการแข่งขันด้านต้นทุน ราคาค่าโดยสาร และการตรงต่อเวลาบิน ที่ถึงแม้ว่าล่าสุดบริษัทจะมีการหยุดเส้นทางการบินบางเส้นไปแล้ว แต่เชื่อว่าเป็นการบริหารเที่ยวบินเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารธุรกิจ และอาจกลับมาเปิดการบินในเส้นทางที่ปิดไปอีกครั้งในอนาคต
สรุป ภารกิจกัปตันคนใหม่และมือใหม่ของนกแอร์ ถือว่าหนัก เพราะยังบินอยู่ในหลุมอากาศ หรือยังขาดทุน และโจทย์แรกที่ควรเร่งแก้ด่วน นั่นก็คือ การตรงต่อเวลา เพราะน้องนกมักสายเสมอ
โดย … ซิลลิ่ง