ชาวบ้านเกิดอาการงงไปตามๆ ทันทีที่กรมการค้าภายในโดยท่านอธิบดี “วิชัย โภชนกิจ” ออกมาไล่บี้ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง ไม่ให้ทำโปรโมชันส่งเสริมการขายน้ำมันปาล์มขวดราคาขวัญใจชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้า ในราคาขวดละ 24 บาท ขนาดบรรจุ 1 ลิตร โดยงัด พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2562 ฐานขายสินค้าขาดทุนต่อเนื่องมาขู่ฟ่อเตรียมเล่นงานพร้อมกับให้เหตุผลว่า หากห้างแห่งนี้ซึ่งเป็นแห่งเดียวที่ยังขายในราคาต่ำต่อเนื่อง จะกดดันให้ราคาผลปาล์มสด และน้ำมันปาล์มดิบลดลงอีก ที่สำคัญคือทำให้เกษตรกรเดือดร้อนที่ทำให้เกิดอาการงง ก็เพราะห้างแห่งเดียวที่ทำโปรโมชั่นชั่วครั้งชั่วคราวมีผลต่อราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ..อุ๊แม่เจ้า! หากมีอิทธิพลเช่นนั้นจริง การแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำก็ดูจะแสนง่ายดาย ก็แค่ให้ห้างเพิ่มราคาขายน้ำมันปาล์มขวดให้แพงเข้าไว้ เกษตรกรจะได้ขายปาล์มน้ำมันได้ราคาการออกมาหวังจะเล่นบทพระเอกของกรมการค้าภายในงานนี้บอกได้เลยว่า คิดผิดมหันต์ เพราะได้สร้างความเดือดร้อนให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านที่ใช้น้ำมันปาล์มในการประกอบอาหารอย่างมากกับราคาที่ปรับขึ้นทันที 10 บาท ส่วนห้างค้าปลีกขวัญใจมหาชนก็ “เป็นมวย” ติดป้ายประกาศหราว่า “ขออภัย เพื่อสนับสนุนนโยบายของกรมการค้าภายใน ทางห้างขอแจ้งการปรับราคาน้ำมันปาล์ม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 62 ราคาเดิม 24 บาท เปลี่ยนเป็นราคา 34 บาท”ทำเอาอธิบดีกรมการค้าภายในนั่งไม่ติด ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ห้ามแค่ขอความร่วมมือ ท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่รองโฆษกรัฐบาล “พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค” ก็ออกมาบอกว่า นายกรัฐมนตรีอยากให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริงว่า ถ้าหากลดราคาน้ำมันปาล์มขวด จะทำให้ราคาปาล์มสดตกลงไปเหมือนเดิม เนื่องจากโรงงานสกัดน้ำมันที่ขายให้กับห้างสรรพสินค้าจะไม่สามารถรับซื้อผลปาล์มในราคาที่สูงได้ ผลกระทบจะตกอยู่กับเกษตรกรเรามาดูข้อเท็จจริงกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับราคาปาล์มน้ำมัน..ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกมากสุดในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. ของทุกปี เป็นอย่างนี้เสมอ ราคาผลปาล์มดิบในช่วงเดือน เม.ย. อยู่ที่ประมาณ 1.70-2.45 บาทต่อกิโลกรัม ย่างเข้าเดือน พ.ค. ราคาขยับขึ้นมาเล็กน้อยสูงสุดอยู่ที่ ก.ก. ละ 2.65 บาท ต้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ประมาณ 2.70-3.00 ต่อก.ก.ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มที่ในวงการรับรู้กันดีอยู่แล้วจะเป็นดังนี้คือ ถ้าราคาผลปาล์มน้ำมันอยู่ที่ ก.ก.ละ 2.50 บาท ราคาน้ำมันปาล์มดิบหน้าโรงสกัดจะอยู่ที่ ก.ก.ละ 13.90 บาท ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดบรรจุ 1 ลิตรจะอยู่ที่ขวดละ 27 บาท ถ้าราคาผลปาล์มดิบอยู่ที่ ก.ก.ละ 3.50 บาท ราคาน้ำมันปาล์มดิบหน้าโรงสกัดจะอยู่ที่ 19.46 บาท และราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจะอยู่ที่ขวดละ 33.25 บาทราคาผลปาล์มดิบที่รับซื้อกัน ณ วันที่ 17 มิ.ย.2562 อยู่ระหว่าง ก.ก.ละ 2.95-3.30 บาท ซึ่งตามโครงสร้างราคา หากราคารับซื้ออยู่ที่ 3.30 บาท ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดควรจะอยู่ที่ขวดละ 32 บาทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น.. ราคาที่ชาวบ้านบริโภคอยู่ทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นผลมาจากราคารับซื้อผลปาล์มดิบในวันนี้ เพราะต้องใช้เวลากว่าจะผ่านกระบวนการมาถึงมือผู้บริโภค เท่ากับว่าผู้บริโภคซื้อน้ำมันปาล์มแพงเกินจริงกว่าที่ควรจะเป็น และที่สำคัญหากห้างไหนหรือโรงสกัดแอบกักเก็บน้ำมันปาล์มขวดหรือน้ำมันปาล์มดิบเอาไว้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ 1-2 เดือน จะกำไรไม่รู้เรื่อง เพราะราคาผลปาล์มดิบอยู่ที่ ก.ก.ละ 1.70 บาทเท่านั้น..ถ้าตามโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มควรจะอยู่ที่ประมาณขวดละ 22 บาทเท่านั้น จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมห้างค้าปลีกถึงทำโปรโมชั่นในราคาขวดละ 24 บาทได้.. เพราะถือว่า ยังได้กำไรอยู่ พอราคาขยับมาที่ 34 บาท พวกที่กักตุนเข้าสต๊อกกันเอาไว้กำไรเพิ่มขึ้นเต็มๆ ขวดละ 12 บาทเข้าทางห้างที่ทำเงียบๆ ไม่ทำโปรโมชั่นฟันกำไรกันไม่รู้เรื่อง เพราะคู่แข่งที่ช่วยถ่วงดุลตลาดถูกกรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้ขยับราคาขึ้น ผู้บริโภคก็ไม่มีทางเลือกใครรู้กับใคร มีผลประโยชน์แอบแฝงกับใครดูกันได้ไม่ยาก แต่คนที่ลำบากรับกรรมกันไปคือชาวบ้านที่ต้องบริโภคของแพงเกินจริงซ้ำเติมความทุกข์ยากมากขึ้นไปอีก และที่สำคัญ เกษตรกรก็ไม่ได้รับอานิสงส์อย่างที่อ้างกัน เพราะขายผลปาล์มดิบไปตั้งแต่ราคา ก.ก. ละ 1.70 บาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาเสียแล้วโดย..ลูกชาวนา