รฟม. ฟิตจัดเตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่บูมรถไฟสายใหม่ “บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม” มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้าน เชื่อมโยง 5 ประเทศ หนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด-นครพนมและการท่องเที่ยวภาคอีสาน เดินหน้าจัดคิว 19 ก.ค. เปิดหวูดโครงการที่ จ.มุกดาหาร-ศรีสะเกษ-อุบลฯ-บุรีรัมย์ ถิ่นอีสานบ้านเฮา ก่อนเร่งเปิดบริการปี 67
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ – มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนทราบถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการฯ พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ และการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และนครพนมไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา
พบว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่และนักลงทุนทั้งในพื้นที่และต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทย เข้าร่วมรับฟังและสอบถามรายละเอียดโครงการดังกล่าว
โดยในวันที่ 19 ก.ค. 2562 เตรียมจัดสัมมนาในครั้งต่อไปที่ จ.มุกดาหาร จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี และ จ.บุรีรัมย์ ต่อเนื่องกันไป ซึ่งจะได้เรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่นำเสนอโครงการให้ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เล็งเห็นความสำคัญพร้อมกับเชิญนักลงทุนจาก 5 ประเทศเข้ามาร่วมงานกันมากขึ้นโดยเฉพาะนักลงทุนจากจีน
โดยในครั้งนี้ นายทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการด้านโครงการร่วมทุนและการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงเรื่องโอกาสของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในภาคอีสาน และการเติบโตของกลุ่มมิตรผลที่จะใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าเพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจ
ด้านนายชัยพล เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเทคโพลีเมอร์ จำกัด และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องศักยภาพของภาคอีสาน ในการเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร และโอกาสที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากมีรถไฟสายนี้ นอกจากนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านของไทยเนื่องจากทางรถไฟสายใหม่นี้สามารถเชื่อมพรมแดนได้ถึง 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว เวียดนามและจีน
โดยการประชาสัมพันธ์โครงการในครั้งนี้ยังพบอีกว่ามีกลุ่มทุนจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อาทิ หจก.นครพนมปรีชากรุ๊ป 2004 บริษัทนำสมัยนครพนม 1998 จำกัด ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างอาทิ บริษัทนครหลวงวัสดุก่อสร้าง 99 จำกัด หจก.นพรัตน์ก่อสร้าง จำกัด สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อาทิ ธนาคารออมสิน และธนาคาร ธกส. สาขานครพนม ผู้ประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ อาทิ บริษัทสหนครโลจิสติกส์ จำกัด บริษัท เจแอนด์เคโลจิสติกส์(2014) จำกัด
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ อาทิ บริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเตมจำกัด หรือเทสโก้โลตัส สาขานครพนม บริษัทสยามราชธานี จำกัด บริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขานครพนม โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิว นครพนม กลุ่มสมาคมองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมไทย-เวียดนาม สหกรณ์การเกษตรท่าอุเทนจำกัด เข้าร่วม
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดเป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี โดยมีระยะทาง 355 กม. ผ่าน 70 ตำบล 19 อำเภอ ของ 6 จังหวัด มีสถานีรถไฟ 18 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี (มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหารและนครพนม) สถานีขนาดกลาง 5 สถานี และสถานีขนาดเล็ก 9 สถานี มีป้ายหยุดรถ 12 แห่ง มีย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า (CY) 6 แห่ง ด้านความปลอดภัย โครงการได้มีการออกแบบให้มีสะพานรถไฟข้ามถนน/ถนนเลียบคลอง 158 แห่ง มีสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง มีทางลอดทางรถไฟ 245 แห่ง และมีทางบริการขนานทางรถไฟ 165 แห่ง
สำหรับแนวเส้นทางดังกล่าวนี้ รฟท. ยังมีแผนสร้างส่วนต่อขยายไปเชื่อมกับนครสวรรค์ที่มีการศึกษาเชื่อมไปถึงตาก และแม่สอดรองรับไว้แล้ว ล่าสุดได้ว่าจ้างกลุ่มเอ็ม เอเอ คอนซัลแตนส์ จำกัด ศึกษาความเหมาะสมช่วงนครสวรรค์-บ้านไผ่ โดยเตรียมลงนามสัญญาในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังสามารถผลักดันเส้นทางเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางรถไฟสายหลักนี้ด้วยระบบขนส่งมวลชนรองอื่นๆ อาทิ รถบัสทันสมัยกับจังหวัดตามแนวเส้นทางที่รถไฟเข้าไม่ถึงตัวจังหวัดต่างๆเพื่อป้อนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนมภายหลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศ พรฎ.เวนคืนที่ดิน จากนั้นในปี 2563 จะเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567 รวมมูลค่าลงทุน 66,848 ล้านบาท
โดยโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – มุกดาหาร – นครพนม ยังเป็นหนึ่งในโครงการเร่งรัดการพัฒนารถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก เพื่อรองรับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลและการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนบน ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกสบายขึ้น ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการขนส่งและโลจิสติกส์สินค้า เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลกอีกด้วย