สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) จับตาโครงการท่อร้อยสายใต้ดินของกรุงเทพมหานคร ให้เอกชนรายเดียวดำเนินการ 30 ปี เข้าลักษณะเป็นการผูกขาด กีดกันการแข่งขันทางการค้า หวั่นผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ถูกกำหนดราคาไม่เป็นธรรม เตรียมหารือ กสทช. เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านเวบไซต์: www.commercenewsagency.com ในหัวข้อข่าว ”สำนักงานแข่งขันฯ จับตาโครงการท่อร้อยสาย กทม. หวั่นผูกขาด ทำผู้บริโภคเดือดร้อน”
โดยระบุว่า กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของ กทม. เป็นผู้จัดหาและได้มอบหมายให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้ดำเนิน “โครงการท่อร้อยสายใต้ดินของกรุงเทพมหานคร” ระยะเวลา 30 ปี ว่า การดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายลักษณะเป็นการผูกขาด กีดกันการแข่งขันทางการค้า
เพราะการดำเนินการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ซึ่งมีลักษณะเป็นการผูกขาดโดยธรรมชาติ ต้องใช้จำนวนเงินลงทุนสูง เช่นเดียวกับสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบขนส่งสาธารณะ โดยปกติเป็นหน้าที่ของรัฐต้องพึงจัดหาให้แก่ประชาชน เนื่องจากเป็นบริการสาธารณะที่มุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ
“กรณีที่ กทม. ได้ให้เอกชนเพียงรายเดียวได้รับสิทธิ์ในการบริหารจัดการเป็นระยะเวลายาวนานถึง 30 ปี โดยยังไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการกำกับดูแล ตามหลักของการแข่งขันจะเป็นการสร้างอำนาจตลาด (Market Power) และอำนาจต่อรอง (Bargaining Power) ที่จะส่งผลกระทบต่อการเข้าสู่ตลาด การเข้าถึงบริการ และราคาค่าบริการของท่อร้อยสายใต้ดินในระยะยาว หากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างและเชิงพฤติกรรมที่กระทบต่อความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีอยู่อันจะนำไปสู่การผูกขาดตลาดในธุรกิจดังกล่าวได้”
ศ.ดร.สกนธ์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของประเทศ เห็นว่าการดำเนินการของ กทม. ควรจะต้องพิจารณาว่าการให้เอกชนเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในตลาดกิจการโทรคมนาคม และมีความได้เปรียบในการให้บริการ ทั้งความได้เปรียบเชิงศักยภาพและเชิงพื้นที่ โดยสามารถดำเนินกิจการได้นานกว่า 30 ปีนั้น จะสร้างทางเลือกในการใช้บริการและทางเลือกด้านราคามากน้อยเพียงใด กรณีจะเป็นการจำกัดและสร้างอุปสรรคในการแข่งขันระหว่างผู้ใช้บริการรายอื่นที่อยู่ในตลาดเดียวกันหรือไม่
นอกจากนี้ จะต้องคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินการดังกล่าวโดยไม่ถูกจำกัด กีดกัน หรือกำหนดเงื่อนไขทางการค้าหรือราคาที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันอย่างไร โดยควรจะต้องกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิ์ที่ชัดเจน ป้องกันมิให้เกิดลักษณะพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนการแข่งขันทางการค้า
สขค. จะมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ในการกำกับดูแล เพื่อป้องกันมิให้เกิดพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ในการดำเนินโครงการการบริหารท่อร้อยสายดังกล่าวต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนาม MOU ร่วมกับ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ในการร่วมมือกันนำสายเคเบิ้ลสื่อสารลงใต้ดินทั่ว กทม. โดย กทม. ได้มอบหมายให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กทม. เป็นผู้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างวางท่อร้อยสายใต้ดินทั่ว กทม. ความยาวรวม 2,450 กิโลเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 20,000 ล้านบาท และจะต้องให้แล้วเสร็จใน 2 ปี หรือภายในปี 2564 โดยบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว และได้รับสัมปทานในการดำเนินการดังกล่าว