หลายคนคงได้เห็นสภาพปัญหาขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีรถโดยสารประจำทางสภาพเก่า ทรุดโทรม ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจุบันโครงสร้างองค์กรมีพนักงาน 28 คน/รถ 1 คัน ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายพนักงาน 5.14 คน ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เชื้อเพลิง ค่าเหมาซ่อมและดอกเบี้ยจ่ายมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย เก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง
ปัญหานี้กำลังจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนเมื่อล่าสุดผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ได้ให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรียบร้อยแล้ว โดย ครม. ได้มีมติมอบให้กระทรวงคมนาคม และ ขสมก. ไปจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการมานำเสนอเนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่องและมีหนี้สินคงค้างจำนวนมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และสามารถเลี้ยงตนเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ นั่นเอง
โดยขั้นตอนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. นั้นมีอยู่หลายวิธี โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่ จัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือรถ NGV ในระยะแรก จำนวน 489 คัน รถโดยสารระบบดีเซลและไฟฟ้า หรือรถไฮบริด จำนวน 1,453 คัน รถโดยสารไฟฟ้า หรือรถ EV จำนวน 35 คัน และการเช่ารถ NGV จำนวน 300 คัน รถไฮบริด จำนวน 400 คัน ระยะเวลาการเช่าประมาณ 7 ปี การปรับปรุงรถโดยสารเดิม จำนวน 323 คัน คาดว่าจะทยอยดำเนินการปรับปรุงประมาณเดือนตุลาคม 2562 ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี
นกจากนั้นยังจัดให้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เช่น ติดตั้งระบบ E – Ticket ชำระค่าโดยสารด้วย QR Code ติดตั้งระบบ GPS และให้บริการ WIFI บนรถ เป็นต้น โดย ขสมก. จะดำเนินการเช่ารถในเส้นทางที่ทับซ้อนกับเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงในการบริหารงาน
เช่นเดียวกับการปรับปรุงเส้นทางเดินรถให้เชื่อมต่อเส้นทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ รวมทั้งให้บริการในเส้นทางที่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดสรรเส้นทางเดินรถในกรุงเทพมหานครให้ ขสมก. จำนวน 137 เส้นทาง
ในการจัดทำแผนฟื้นฟูครั้งนี้เพื่อให้ ขสมก. สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ โดยปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับลง เช่น ดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement โดยสมัครใจ) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานให้เหลือ 2.7 คนต่อคัน ลดค่าซ่อมบำรุง ค่าเชื้อเพลิง จัดหารถใหม่ให้ได้ตามแผน จัดหารถที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นแทนน้ำมันดีเซล นอกจากนั้นยังเห็นชอบด้านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ คือ พื้นที่อู่จอดรถบางเขนและอู่จอดรถมีนบุรี ไปดำเนินการ
ส่วนในเรื่องการบริหารหนี้สินของ ขสมก. ซึ่งกระทรวงคมนาคม เสนอกระทรวงการคลัง เพื่อขอยกหนี้สินสะสมของ ขสมก. ที่เกิดจากนโยบายรัฐบาล ไม่รวมหนี้สินใหม่ในอนาคต
ประการสำคัญแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าวยังพียงเป็นแผนดำเนินการในภาพรวม ส่วนขั้นตอนการปฏิบัตินั้น ขสมก. ต้องขออนุมัติจาก ครม. เพื่อดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
ส่วนผลลัพธ์การปฏิบัติที่รัฐบาลและหลายคนคาดหวังว่าจะได้เห็นรถโดยสารมีคุณภาพ มีการให้บริการที่ดีขึ้น สามารถอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ รองรับภารกิจในอนาคตที่มุ่งสู่ BMTA 4.0 และ ขสมก. มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี สามารถเลี้ยงตนเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ และสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างยั่งยืนอย่างรวดเร็วและเป็นจริงได้มากเพียงใดนั้น ยังมีให้ตามลุ้นความสำเร็จ