หากจะบอกว่า "ดร.ไก่" สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คือ "ชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ" ของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ใน พ.ศ.นี้ ก็คงไม่แปลกอะไรนัก
เขาคนนี้...คือ ตัวจริง! ที่ทำให้วงการอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ทั้งในซีกของประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคง รุกไปข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่เพียงความคิดสร้างสรรค์ของการสร้างกรอบนโยบายเชิงรุกในมิติใหม่ๆ อิงไปกับพัฒนาการทางด้าน Insurtech การลงมือปฏิบัติอย่างหนักแน่นและจริงจัง แม้กระทั่ง ดึงเอาศักยภาพของคณะผู้บริหารทุกระดับและทีมงานทุกคนของ คปภ. ออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นั่นคือ จุดแข็งและจุดขายของชายคนนี้ ที่แม้แต่... รมว.คลัง คนก่อน อย่าง...นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง คนปัจจุบัน อันเป็น "ต้นสังกัด" ของ คปภ.เอง ยังเอ่ยปากชม...ไม่หยุด!
ล่าสุด ที่ ดร.สุทธิพล เพิ่งประกาศวิสัยทัศน์และผลการดำเนินงาน เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ สิ่งยืนยันถึงศัยกภาพและความสำเร็จของสำนักงาน คปภ. ยุคนี้
"ปี 2562 สำนักงาน คปภ. ได้ประกาศทิศทางนโยบายการกำกับดูแลอุตสาหกรรมประกันภัย มุ่งพัฒนา และส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ด้วยการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัยให้มีมาตรฐาน ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมประกันภัย ควบคู่กับการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างสมดุลที่ไม่เพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านประกันภัย “
นอกจากนี้ จะยกระดับศักยภาพองค์กร ”ให้มีบุคลากรที่มีศักยภาพและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อเพิ่มประ สิทธิภาพการกำกับ ตรวจสอบ และบริการประชาชน รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการให้ความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากระบบประกันภัยอย่างเต็มที่และสามารถนำระบบประกันภัยมาช่วยในการบริหารความเสี่ยงต่างๆ ให้กับประชาชนตามน โยบายของรัฐบาล ผ่าน 3 พันธกิจที่สำคัญ คือ 1. พัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีความเข้มแข็งมั่นคง 2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยมีบทบาท สร้างเสริมความเข้มแข็ง มั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจสังคมของประเทศ และ 3. คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความเป็นธรรมจากการประกันภัย"
ข้างต้น คือ คำยืนยันจากเขาในวันแถลงข่าวต่อหน้าคณะสื่อมวลชนหลายสิบชีวิต ที่ติดตามไปทำข่าวที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ไม่เพียงแค่นั้น สำนักงาน คปภ. ในยุค "ดร.สุทธิพล" ยังประกาศด้วยว่า...จะขับเคลื่อนพันธกิจทั้ง 3 ด้าน ผ่านกลยุทธ์ 5 ข้อ ประกอบด้วย...
1.ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของตลาดและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพให้ระบบประกันภัยของประเทศ ตลอดจนปรับโฉมกระบวนการให้ความเห็นชอบแบบกรมธรรม์ประกันภัยให้มีประสิทธิภาพสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ตลอดจนยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาธุรกิจประกันภัย
2.พัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานและระบบงานของ สำนักงาน คปภ. เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจมีความรวดเร็ว คุ้มค่าและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในองค์กร
3.สร้างและขยายเครือข่ายพันธมิตรและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมประกันภัยเพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตและสภาพคล่องของภาคอุตสาหกรรม
4.พัฒนาระบบการกำกับและตรวจสอบด้านเสถียรภาพแบบสมดุล โดยเน้นบทบาทในการให้คำแนะนำเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถพัฒนา เติบโตและอยู่รอดในกระแส digital disruption ขณะเดียวกันก็จะยังให้ความสำคัญในการดูแลเรื่อง market conduct และการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อระบบประกันภัย
และ 5.พัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีและฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบประกันภัยของประเทศให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
"สำนักงาน คปภ. คาดการณ์ว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนทางด้านบวก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทิศทางการค้าการผลิตและการลงทุนระหว่างประเทศ ที่จะส่งผลให้การส่งออกยังคงมีแนวโน้มขยายตัว อยู่ในเกณฑ์ดีและการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนตามแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของการลงทุนภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่อยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมทั้งแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวที่มีทิศทางเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์แนวโน้มสิ้นปี 2562 จะมีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งปีประมาณ 904,550 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.9 - 5.9 ประมาณการเบี้ยประกันชีวิตจำนวน 664,354 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5 - 6 และประมาณการเบี้ยประกันวินาศภัย จำนวน 240,197 ล้านบาท เติบโต ร้อยละ 4.7 - 5.7" เลขาธิการ คปภ. ย้ำ และว่า
ปี 2561 ถือเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของสำนักงาน คปภ. ซึ่งได้ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายที่กำหนดโดยคณะกรรมการ คปภ. ที่มุ่งเน้นการกำกับดูแลและ ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส น่าเชื่อถือ และคุ้ม ครองประชาชน ให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันภัยอย่างรวดเร็ว ถูกต้องและครบถ้วน
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังกำหนดให้เป็นปีแห่ง “การขับเคลื่อนนวัตกรรมประกันภัย” ซึ่งได้มุ่งเน้นดำเนินการเชิงรุกในเรื่องการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีประกันภัย โดยนำนวัตกรรมมาต่อยอดเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยและส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ควบคู่กับดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559-2563)
ซึ่งแม้ว่ามีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัย ประกอบด้วย เศรษฐกิจมหภาคผลกระทบของทิศทางโลก นโยบายประเทศไทย 4.0 ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งภัยคุกคาม ทางด้านไซเบอร์ (Cybercrime) ที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบประกันภัย แต่ภาพรวมภาวะธุรกิจประกันภัยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางและนโยบายในการดำเนินงานของ สำนักงาน คปภ. นั้น ดร.สุทธิพล ย้ำว่า มีรายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
สำนักงาน คปภ.จะดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี และขับเคลื่อนภารกิจตามแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า “สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่เป็นภูมิคุ้มกันของประเทศในการบริหารความเสี่ยง ให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (Microinsurance) กรมธรรม์ประกันสุขภาพ กรมธรรม์ประกันภัยพืชผล กรมธรรม์ PA ที่รองรับนโยบายภาครัฐ : กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักท่องเที่ยวขับเคลื่อน Regulatory Reform หรือ Regulatory Guillotine และเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบ รวมถึงการพัฒนากรอบการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะที่ 2 (RBC 2) และการประเมินความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
ส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัย โดยเดินหน้ามาตรการที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ ผ่อนคลายการกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อลดระยะเวลาการให้ความเห็นชอบผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินไหมทดแทนด้านการประกันภัย (Service Level Agreement : SLA) ส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงทางการเกษตรปศุสัตว์และประมง พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางด้านการประกันภัย (Insurance Bureau System) สนับสนุนให้ภาคธุรกิจประกันภัยเข้าร่วมโครงการ Insurance Regulatory Sandbox พร้อมศึกษาแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจให้สอดรับกับนวัตกรรมด้านการประกันภัยใน Sandbox
ศึกษาแนวทางการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจประกันภัยและใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เสถียรภาพของระบบประกันภัยไทย สนับสนุนความร่วมมือด้านการยกระดับความพร้อมรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ ปรับปรุงระบบขอรับความเห็นชอบอัตราเบี้ยประกันภัย แบบและข้อความกรมธรรม์ประกันภัย ระยะที่ 2
นั่นเป็นเพียงบางส่วนของทิศทางและการนโยบายของ สำนักงาน คปภ. ยุคนี้ แต่ที่ "สำนักข่าวเนตรทิพย์" และให้น้ำหนักความสำคัญมากที่สุด คือ การกระตุ้นอุตสาหกรรมประกันภัยไทย จากฝีมือและมันสมองของ ดร.สุทธิพล คนนี้
จากตัวเลขเบี้ยประกันภัยรวมในปี 61 ที่เติบโตจากปี 60 กระทั่ง พุ่งทะลุถึงกว่า 8.6 แสนล้านบาท ทว่าในปี 62 คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่านั้น กับเป้าหมายที่วางไว้คือ 9.04 แสนล้านบาทนั้น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ สำนักงาน คปภ.ยุคนี้ ได้อย่างชัดเจนที่สุด!
จากแนวคิด อันเกิดแต่นโยบาย นำระบบประกันภัยเข้ามาสร้างหลักประกันให้แก่วงการเกษตรกรไทย รวมถึงธุรกิจ-อุตสาหกรรมในทุกภาคส่วนของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีจำนวนธุรกิจมากเกือบ 3 ล้านล้านรายนั้น
หากทำได้จริง "สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์" เชื่อว่า ย่อมจะส่งผลให้อุตสาหกรรมประกันภัยของไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดทีเดียว...ความหวังที่จะผลักดันให้เบี้ยประกันภัยรวมทะลุ 1 ล้านล้านบาทนั้น คงอยู่อีกไม่ไกล และไม่เพียงแค่นั้น...หากยังอาจได้เห็นบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เติบโตผ่านการควบรวมกิจการ เพื่อเสริมแกร่งให้กันและกัน เพื่อผนึกกำลังรุกไปข้างหน้า...
เป้าหมายใหญ่ คือ การเจาะตลาดในกลุ่มประเทศ CMLV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) จึงอาจไม่ไกลเกินฝัน และ "สำนักข่าวเนตรทิพย์" เชื่อว่า...ภายใต้การถือ "ธงนำ" ของชายคนที่ชื่อ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ แล้ว ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน!!!.
โดย..กากบาทดำ