ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับกุมตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม
โดยพฤติการณ์ฉาวโฉ่ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ได้มีผู้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดําเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายรัชฎา เนื่องจากมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด โดยกล่าวหาว่า มีการเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยเพื่อเป็นการวิ่งเต้นให้รักษาตําแหน่งหัวหน้าหน่วยไว้ให้ โดยหากหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วย ไม่นําเงินมาวิ่งเต้นตําแหน่งกับนายรัชฎาภายหลังจะถูกโยกย้ายออกจากตําแหน่ง ซึ่งการวิ่งเต้นรักษาตําแหน่งนั้น หัวหน้าหน่วยจะต้องนําเงินมามอบให้ที่สํานักงานของนายรัชฎา รายละประมาณ 200,000-300,000 บาท อีกทั้งยังต้องนําเงินสดมามอบให้เป็นรายเดือนอีกด้วย
ข้าราชการระดับสูงรายนี้ ยังมีพฤติกรรมในการเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในภาคสนามอีกด้วย โดยจะคิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและค่าใช้สอย, หน่วยป้องกันไฟป่า 3% เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและค่าใช้สอย
จากพฤติกรรมของทางนายรัชฎาฯ ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีการเรียกรับเงินจากทางเจ้าหน้าที่ฯ โดยมิชอบ ซึ่งถือเป็นการกระทําผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. จึงร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ดําเนินการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดําเนินคดีกับนายรัชฎาดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เบื้องหลังการเปิดพฤติการณ์ฉาวของอธิบดีกรมอุทยานฯ มีรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แจ้งความเอาผิดนายรัชฎา หลังพบว่า มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ยอมจ่ายเงินวิ่งเต้น และยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ
ขณะที่นายรัชฎา บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานอยู่นาน จนภายหลังลิ้นชักถูกเปิด พบมีเงินสดๆ ซุกอยู่จำนวนมาก ขณะที่ข้าราชการระดับสูงรายนี้ยังปากแข็งให้การภาคเสธ โดยอ้างว่ามีคนนำซองมาให้ แต่ไม่ทราบว่าข้างในซองเป็นอะไร ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานเบื้องหลังการจับกุมว่า เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเดินทางมายังอาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ก่อนแสดงหมายค้น เพื่อขอค้นห้องทำงานของนายรัชฎา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต
การตรวจค้นห้องทำงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบเงินล่อซื้อ 98,000 บาท ที่มีการทำบันทึกแจ้งความและถ่ายสำเนาไว้เป็นหลักฐาน รวมพบเงินสด ๆ ซุกในห้องทำงานอธิบดีฉาวรายนี้ถึง 4.9 ล้านบาท พร้อมกับซองบรรจุเงินที่มีการจ่าหน้าซองจากหน่วยงานในแต่ละสังกัดอีกจํานวนหลายซอง และเอกสารอีกจํานวนหลายฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดําเนินการเรียกรับเงินของนายรัชฎา
จากนั้นได้นำตัวนายรัชฏาไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้มีหลักฐานการล่อซื้อเป็นหลักฐานสำคัญ ขณะที่นายรัชฎา ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด
