รฟม.-กทม.-เคที-บีทีเอส แจงพร้อมเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-เซ็นทรัลลาดพร้าว ก่อนให้บริการฟรี 1 สถานีเริ่ม 11 ส.ค. เป็นต้นไป เผย กทม. เล็งต่อสัญญารถไฟฟ้าเหมาเข่ง จ่อยกสัมปทานให้ BTS 40 ปี
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ล่าสุด กรุงเทพมหานคร (กทม.) เลือกใช้แนวทางต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส อีก 40 ปี แบบเหมาเข่งทั้งสองสัญญาสัมปทานเดินรถ ได้แก่ สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอส สายหลักช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสินนั้น ที่จะหมดสัญญาในปี 2572 ขณะที่สัญญาสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยาย ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า จะหมดในปี 2585 เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อระบบไม่ต้องลงจากขบวนเพื่อเปลี่ยนคัน หากจ้างเอกชนสองรายเดินรถจะต้องมีการเปลี่ยนขบวนเพราะเป็นรถไฟฟ้าคนละระบบกัน
ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เดินรถรายเดิม คือ BTS ถึงห้วงเวลาการขยายสัญญาของทั้งสองสัมปทานออกไปอีก 40 ปี โดยแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไข 3 ข้อ อาทิ เอกชนต้องลงทุนส่วนต่อขยายเองทั้งหมดและจ่ายส่วนแบ่งรายปีให้ กทม. ตามที่ตกลงกัน และรับภาระค่าโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการมูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นต้น
ทว่าเงื่อนไขที่ทำให้การเจรจานั้นล่าช้ามานานนับเดือน แม้ว่าฝ่ายนโยบายได้สั่งการให้เร่งรัด คือ ข้อเสนอเรื่องราคาค่าโดยสารตลอดสายที่ไม่เกิน 65 บาท ตั้งแต่ช่วง คูคต-สมุทรปราการ หรือช่วงคูคต-บางหว้า เป็นสิ่งที่ผู้เดินรถนั้นรับไม่ได้เพราะมองว่าไม่คุ้มค่าต่อการทำธุรกิจเดินรถ ส่วนการเจรจาเรื่องค่าแรกเข้าบีทีเอสมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะยอมยกเลิกค่าแรกเข้าเมื่อเชื่อมต่อตั๋วร่วมระบบบัตร EMV แล้ว
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ตามที่มีเสียงต่อต้านเรื่องค่ารถไฟฟ้าจากหลายภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะการเสนอให้รัฐบาลทบทวนต้นทุนค่าโดยสารรถไฟฟ้าใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทการขยายตัวของเมืองหลวงเหมือนในต่างประเทศที่เจริญแล้ว มีค่ารถไฟฟ้าถูกกว่าไทยหลายเท่าตัว เนื่องจากต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าของไทยคิดแค่เฉพาะต้นทุนประกอบการธุรกิจเดินรถพร้อมกำหนดราคาที่ตายตัวไว้ในสัญญาสัมปทาน แตกต่างกับในต่างประเทศมีการนำตัวเลขมูลค่าผลประโยชน์ด้านอื่นมาคิดคำนวณด้วย อาทิ รายได้จากค่าธุรกิจสื่อภายในสถานี รายได้เชิงพาณิชย์จากตัวสถานี และรายได้จากการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทาง
“เห็นได้ว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลจะเกิดไปพร้อมกับเส้นทางรถไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องนำมาคำนวณในการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเอาไว้ด้วย หากใช้แนวทางดังกล่าว มีโอกาสที่ค่ารถไฟฟ้าจะถูกลงกว่าเดิม ซึ่งบริษัทผู้เดินรถจะอ้างว่า เป็นเพียงรับจ้างเดินรถไม่ได้ เพราะว่า ผู้เดินรถเอง มีบริษัทลูกในการทำกิจกรรมดังกล่าว โดยพบว่า เมื่อรถไฟฟ้าเกิดขึ้นส่งผลให้ราคาที่ดินตามแนวเส้นทางเพิ่มสูงขึ้น 8-10 เท่าตัวจากราคาเดิม ผู้เดินรถจะมองแค่ว่าเป็นเพียงบริษัทเดินรถเท่านั้นไม่ได้“
ด้านแหล่งข่าวในวงการระบบขนส่งมวลชนรายหนึ่งกล่าวว่า ในขณะนี้ทราบว่า กทม. ได้ตัดสินใจชะลอแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยาย ช่วงสมุทรปราการ-บางปู วงเงิน 1.37 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยาย ช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 1.19 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่า อาจไม่มีบริษัทเอกชนสนใจลงทุนเนื่องจากเป็นเส้นทางชานเมืองที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก
“เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงชานเมือง จึงต้องการรอให้รถไฟฟ้าสายใหม่ อาทิ สายสีชมพู สายสีเหลือง และสายสีส้ม เปิดบริการก่อนเพื่อประเมินทิศทางดีมานต์ของผู้โดยสารอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ชะลอโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกันนี้”
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือบีทีเอสจากหมอชิต-คูคต ที่ปัจจุบันการก่อสร้างช่วงสถานีหมอชิต-สถานีเซ็นทรัลลาดพร้าว คืบหน้าเกือบแล้วเสร็จนั้นอยู่ระหว่างการเร่งทดสอบการเดินรถจำนวน 1 สถานี และในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ รฟม. และ กทม. ได้ร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ความพร้อมให้บริการเดินรถก่อนที่จะเริ่มเปิดให้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ จะเชื่อมเดินรถจากสถานีหมอชิตถึงสถานีเซ็นทรัลลาดพร้าว 1 สถานี เพื่อแสดงความพร้อมในการเริ่มต้นทดสอบระบบต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการเดินรถฟรีตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป เดินรถตามปกติและจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการไปยังสถานีอื่นๆ อย่างต่อเนื่องกันไปจนกว่าจะสิ้นสุดถึงสถานีคูคต