“สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์” เคยหยิบยกประเด็นข่าว...เครือข่ายสังคมออนไลน์ระดับโลก อย่าง Facebook ประกาศความพร้อมร่วมกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำกว่า 10 แห่ง เตรียมเปิดตัว “เงินดิจิทัล” ที่ชื่อ Libra แค่นั้น (อ่านเพิ่มเติมSpecial Report : จาก Trade War สู่เหรียญ LIBRA แค้นต้องชำระเพื่อให้ดอลล่าร์สูญพันธุ์! http://www.natethip.com/news.php?id=603)
ดูเหมือนรัฐบาลและธนาคารกลางของหลายประเทศ รวมถึงธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของโลก ต่างก็ตั้งป้อม...“สหบาทา” ในลักษณะร่วมกันทำให้ “เงินดิจิทัล” สกุลนี้... “แท้งตั้งแต่ยังไม่ท้อง”
หาก Libra เกิดขึ้น ย่อมกระทบต่อระบบการเงินการคลังและระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ก็อย่างที่เคยบอกในครั้งก่อนว่า...รัฐบาลแต่ละประเทศ ไม่ได้รังเกียจ “เงินดิจิทัล”
กลับกัน...ยังอยากจะเป็นเจ้าของเสียด้วยซ้ำ แต่กับ Libra ของ Facebook นั้น มันยิ่งใหญ่ มีเครือข่ายกว้างไกล เกินกว่าที่รัฐบาลของประเทศใดจะไปควบคุมได้ “เงินดิจิทัล” สกุลนี้...จึงกลายเป็น “ตัวอันตราย” ของรัฐบาล ธนาคารกลาง และธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับโลก...ร่วมกัน
ระหว่างที่หลายคน หลายหน่วยงาน และหลายองค์กร กำลังเกิดอาการวิตกกังวลใจ ถึงขั้น “กลัว” ต่อการเกิดขึ้นของเหรียญ Libra นั้น ก็มีอีกหลายคน หลายหน่วยงาน และหลายองค์กร กำลังเฝ้าจับจ้องและเรียนรู้ที่จะเดินไปกับ “เงินดิจิทัล” ของกลุ่มFacebook หนึ่งในนั้น มีหน่วยงานกำกับดูแลเชิงนโนบายทางการเงินของประเทศไทย อย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำลังเฝ้ามองปรากฏการณ์นี้ เหมือนธนาคารกลางอื่นๆ จากทั่วโลก
น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ออกมาระบุว่า ธปท. เข้าใจความพยายามของ Facebook ที่ต้องการแก้ pain point เรื่องระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างประเทศให้สะดวกรวดเร็วไปทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น และช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ธปท.คงต้องพิจารณาในมิติอื่นๆ ด้วย ทั้งในด้านความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของมูลค่า Libra กลไกการเงินต่างๆ รวมถึงการดูแลประชาชนที่อาจมีจากการถูกหลอกลวงให้ลงทุน จึงขอให้ประชาชนศึกษาทำความเข้าใจก่อนลงทุนต่างๆ อย่าหลงเชื่อหากมีคนชักชวนลงทุน
“ขณะนี้ ธปท. ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่อง stable coin – Libra โดยเฉพาะ และคณะทำงานฯ ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กลต. และธนาคารกลางอื่นๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ธปท. เห็นว่า Libra ถือเป็น global issue ซึ่งแต่ละประเทศคงต้องหารือกัน โดยได้มีการติดต่อ Facebook หารือในเร็วๆ นี้ เพื่อดูความชัดเจนของกลไกต่างๆ รวมทั้งแนวทางการกำกับดูแลของประเทศต่างๆ” ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. ระบุ
ไม่เพียงแค่นั้น ในโลกของอุตสาหกรรมประกันภัยเอง ก็รู้สึกกังวลใจไม่น้อยไปกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็พูดชัด เมื่อคราวจัดประชุม InsureTech 2019 เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา
โดยย้ำว่า...คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย บริษัทประกันภัยชั้นนำ กำลังเฝ้ามองและเรียนรู้ความเป็นไปของ “เงินดิจิทัล” ที่ชื่อ Libra เพียงแต่ยังบอกไม่ได้ว่า...สิ่งนี้จะส่งผลดีหรือผลเสียต่อวงการการเงินและอุตสาหกรรมประกันภัยของโลกและของไทย
เขายอมรับว่า...หากบอกว่า Libra เป็นสิ่งอันตราย อุตสาหกรรมประกันภัยและวงการการเงิน ก็อาจจะสูญเสียโอกาสดีๆ ไปกับระบบการเงินยุคใหม่ ที่มีพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Fintech) แต่ครั้นจะบอกว่า Libraคือ อนาคตและเป็นความหวัง โดยที่ไม่พิจารณาประกอบจากมุมมองของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่าง...ธปท., คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), กระทรวงการคลัง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอื่นๆ ก็คงไม่ได้
ทั้งนี้ คปภ. และกลุ่มก้อนในอุตสาหกรรมประกันภัย ต่างก็เฝ้ามองปรากฏการณ์นี้อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ก็ต้องช่วยกันระดมความคิดในทุกภาคส่วน ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการดำเนินงานของธุรกิจประกันภัย
พร้อมกับยอมรับว่า...พัฒนาการของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ InsureTech นั้น ก้าวล้ำจนกฎระเบียบภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกฎหมายที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณาและผ่านร่างกฎหมาย ก่อนประกาศใช้ จึงทำให้กฎหมายนั้น อาจไม่ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
เลขาธิการ คปภ. ยอมรับว่า ทั้ง สำนักงาน คปภ. และบริษัทประกันภัย จำเป็นจะต้องเรียนรู้และเดินไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมกับปรับตัวให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. อยากเห็นผู้ประกอบการ Startup รายใหม่ๆ ที่ไม่ใช่หน้าเดิมๆ เข้ามาร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมเกี่ยวกับธุรกิจประกันภัยมากขึ้น จากนี้ จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างเวทีให้กับ Startup รายใหม่ ได้มีโอกาสแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยต่อไป
“สำนักงาน คปภ. มีหน้าที่คอยดูแล แต่ไม่ใช่แค่การกำกับอย่างเดียว ยังส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการจะพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัย ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดตั้ง CIT หรือ Center of Insurance Technology ขึ้นมาคอยดูแลและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับอุตสาหกรรมประกันภัย”
ถึงตรงนี้ วงการนักการเงินการธนาคาร นักวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงมหภาคในระดับโลก และอีกหลายๆ อาชีพที่เกี่ยวข้อง ต่างก็กำลังศึกษาและเรียนรู้ เทคโนโลยีที่จะนำไปสู่การสร้าง “เงินดิจิทัล” เพื่อให้เข้าใจถึง “จุดเด่น-จุดด้อย” ของมันอย่างถ่องแท้
ปากก็บอกว่า... “เงินดิจิทัล” โดยเฉพาะ เหรียญ Libraของ Facebook ไม่ดีอย่างนั้น ส่งผลเสียอย่างนี้ แต่พฤติกรรมลึกๆ กลับกำลังหาทางที่จะเดินไปกับ “เงินดิจิทัล” ด้วยไม่ต้องการ “ตกขบวนรถด่วน” เหมือนคนหัวเก่าในยุคก่อนๆ ที่ปฏิเสธ “เทคโนโลยีสมัยใหม่”
กับคนไทยเอง “สำนักเนตรทิพย์ ออนไลน์” ไม่ได้คาดหวังหรือเชียร์ให้ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือร่วมลงทุนในเหรียญ Libraของ Facebook แต่อย่างใด เพียงแต่เราเห็นว่า...สิ่งนี้ คือ อนาคต และเป็นอนาคตที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นปัจจุบันในอีกไม่นานสักเท่าใด
จึงอยากให้คนไทย...ได้เรียนรู้และทำความรู้จัก ไม่เฉพาะแค่เหรียญ Libra ของ Facebook หากยังรวมถึง “เงินดิจิทัล” หรือที่เรียกกันในวงการการเงินของโลกว่าเป็น Cryptocurrency สกุลอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะอย่างไร? คนในโลกใบนี้...คงยากจะหลีกเลี่ยง หรือปฏิเสธเจ้า Cryptocurrency (“เงินดิจิทัล”) ที่จะเข้ามามีบทบาทแทนที่ “เงินเฟี๊ยต” (ธนบัตรและเหรียญเงิน) ได้อย่างแน่นอน!!!
ไหนๆ จะหนีมันไม่พ้นแล้ว ก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และใช้มันให้เป็นประโยชน์สูงสุด เหมือนที่...กลุ่มคนต่อต้าน กำลังคิดอ่านในแนวทางเดียวกันนี้อยู่!
โดย กากบาทดำ