หัวส่าย หางจึงขยับ! เพราะเป็นช่วงปลาย “รัฐบาลประยุทธ์” และ “จุดเริ่มต้น” ของรัฐบาลประชาธิปไตยที่มี พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ สังคมไทยจึงได้เห็นปรากฏการณ์ “ไม่เกรงใจนาย” ไล่ล่าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของ ตม. นั่นจึงทำให้หน่วยงานรัฐแห่งนี้ ไม่ต่ำตมและจมไปกับ “ส่วยแรงงานต่างด้าว” อย่างใครหลายคนเคยครหา
......
มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการถึง ตัวเลขแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย ที่ถูกระบุว่า...พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในระดับ “หลายล้านคน” ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้แรงงานต่างด้าวเหล่านั้น หดหายลงไปบ้าง แต่หลังจากที่วิกฤติโควิดฯคลายตัว ยอดแรงงานต่างด้าวในไทยก็กลับมาพุ่งสูงในระดับปกติ หรือมากกว่าปกติด้วยซ้ำ
จากเดิมที่เคยพบแรงงานต่างด้าวจาก สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม และจากกลุ่มประเทศเอเชียใต้ นั้น ทว่ายามนี้...กลับพบมากกว่าแรงงานต่างด้าว นั่นคือ การเริ่มปรากฏตัวของกลุ่มทุนเล็ก-ใหญ่ ชาวจีน รัสเซีย และบางในประเทศจากยุโรปตะวันตก ที่แห่ตบเท้าเข้ามาหากินในประเทศไทย
ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย!!!
เฉพาะ แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่เข้ามาทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย รวมถึงพวกที่ออกลูกแตกหลานในประเทศไทยนั้น ว่ากันว่า...มีรวมกันเฉียด 2 ล้านคน และราวร้อยละ 90 พบว่า...ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกกฎหมาย
นั่นก็หมายความว่า...แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชากว่า 1.8 ล้านคนในประเทศไทย ต่างก็เป็นแรงงานเถื่อน!
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่กวดขันในการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยของชาวต่างด้าว อย่าง...ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ที่คอยตรวจเช็คกันแบบละเอียดยิบ พร้อมซักถามรายละเอียดการเดินทาง หรือตรวจดูเอกสารก่อนเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย เป้าหมายสำคัญคือ การรักษาความมั่นคงของประเทศนั้น
ทว่าบทบาทของ ตม.ในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนจะหย่อนยานกันหรืออย่างไร? จึงทำให้แรงงานต่างด้าว ทะลักเข้าประเทศไทยได้มากมายถึงเพียงนี้
แต่จะโทษ ตม. เพียงหน่วยงานเดียว ก็คงไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนัก! เพราะยังมีบทบาทของหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ อีกหลายหน่วย ไม่ว่าจะเป็น...ทหาร ตำรวจ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานรัฐ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวตะเข็บพรมแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่คอยหมั่นตรวจสอบและจับกุมแรงงานเถื่อนที่หลบหนีเข้าประเทศไทย อีกด้วย
พูดรวมๆ มันก็ทุกหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการดูแลและควบคุมคนต่างด้าวในประเทศไทยทั้งหมดนั่นแหละ ที่เหมือนจะเป็น “ตัวปัญหา” ของสถานการณ์แรงงานต่างด้าวล้นเมืองในยามนี้
ส่วนใหญ่ของ แรงงานต่างด้าวเถื่อน เหล่านี้ มักสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยและคนไทย ด้วยการ แย่งอาชีพคุ้มครองที่รัฐบาลไทยได้สงวดเอาไว้เป็นเฉพาะสำหรับคนไทย โดยเฉพาะการ “สวมตอ” เป็นคนไทย...เปิดทำธุรกิจหรือขายสินค้าด้วยตัวเอง ในย่านถนนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติอาศัยและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่น ถนนสุขุมวิท สีลม พระรามที่ 1 และย่านตัวเมืองเก่าเกาะรัตนโกสินทร์
รวมถึงบางกลุ่มที่คอยแต่จะสร้างภาพลักษณ์เลวร้ายของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเอารัดเอาเปรียบและสร้างความลำคาญใจ ด้วยการขายสินค้าราคาแพงแต่คุณภาพต่ำ หลอกลวงต้มตุ๋ม จนถึงมีการจัดตั้งแก๊งขอทานออกเรี่ยไรเงินกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ไม่นานก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งจะมีข่าว...การจับกุมพ่อค้าทุเรียนโกงตาชั่งชาวเวียดนาม การจับกุมพ่อค้าแม่ขายแผงตลาดสด/ตลาดนัดชาวเขมร รวมถึงเจ้าของร้านปิ้งย่าง (ชาบู) ชาวจีน ที่มีให้เห็นอย่างดาษดื่นในย่านมณฑลรัชดาภิเษก ไม่ห่างจากสถานทูตจีนมากนัก
ยังไม่นับรวม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มประกอบอาชีพบ่อนพนันผิดกฎหมาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (บ่อนวิ่ง) พ่อค้ายาเสพติด และกลฉ้อฉลอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะ...แก๊งตบทรัพย์ มอมเยารูดทรัพย์ และแก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวต่างชาติ
สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอันมาก
ล่าสุด หน่วยงานอย่าง ตม. ในพื้นที่พัทยา ชลบุรี ก็เพิ่งจะเปิดปฏิบัติการไล่ล่าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งขอทาน และพระสงฆ์ปลอมที่ออกบิณฑบาตและเรี่ยไรเงิน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นชาวกัมพูชา จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
เหตุที่ ตม. และอีกหลายๆ หน่วยงาน ดูจะเข้มขลังในปฏิบัติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในช่วงท้ายๆ ของ “รัฐบาลลุงตู่” นั้น ส่วนหนึ่งเพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน กวดขันแรงงานต่างด้าวเถื่อนเหล่านี้
แต่สำคัญมากกว่านั้น ก็คือ เพราะเป็นช่วงท้ายของ “รัฐบาลรักษาการ” และการจ่อเข้ามาบริหารประเทศของ “รัฐบาลชุดใหม่” ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ซึ่งได้ประกาศตัวเด่นชัด! พร้อมเดินหน้าขจัดทุก “เกมโกง” ของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึง เอกชนรายใหญ่-เล็ก ที่ “พร้อมจ่าย” แลกกับการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย
ขนาดยังไม่ทันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองความเป็น ส.ส.ของ ว่าที่ ส.ส.ทั้ง 500 คน แต่คนของ พรรคก้าวไกล อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายรังสิมันต์ โรม ก็ออมมาปูด และ/หรือ ขยายผล ทั้งเรื่อง...สารพัดส่วยสติ๊กเกอร์ ทุนจีนสีเทา ฯลฯ จนเป็นข่าวโด่งกันไปทั่วเมือง
หาก พรรคก้าวไกลมี “อำนาจรัฐ” ในมือ...คงไม่ต้องสาธยายให้มากความว่า...การเดินหน้าขจัดโกงของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นเช่นใด?
บางคนในหน่วยงานของรัฐจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร? กับกลเกมการโกงครั้งใหม่?
ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ที่ รัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล จะต้องเร่งทำงานคู่ขนานไปกับหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ ตม. กระทรวงการแรงงาน และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นเป็น “ดอกเห็ด” เหมือนที่เป็นไปตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา
เพราะปลายทางของการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะ “ส่วยแรงงานต่างด้าว” ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ที่หย่อนยานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ จนเป็นเหตุให้เกิดการอพยพของแรงงานต่างด้าวเถื่อนครั้งใหญ่! ในช่วงที่ผ่านมา
การเปิดปฏิบัติการเชิงรุก! ของ ตม. ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการไล่ล่าจับกุมแรงงานต่างด้าวเถื่อนผิดกฎหมาย ไม่เฉพาะ แก๊งชาวกัมพูชา แต่ยังรวมถึงทุกชาติพันธุ์ที่แอบลักลอบเข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตการทำงานในประเทศไทย รวมถึงเข้ามาแย่งอาชีพที่ได้รับการสงวนเอาไว้เฉพาะกับคนไทย ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี สอดรับกับแนวทางและนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
อย่างที่เกริ่นเอาไว้ เพราะเป็นช่วงปลายอายุ “รัฐบาลรักษาการณ์” และการเกิดปรากฏการณ์ “ฟ้าเปลี่ยนสี” รวมถึงสภาวะที่ประกาศไทยกำลังเข้าสู่ยุค “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง”
นั่นจึงอาจทำให้อาการเกรงใจ “นาย” และ “คนที่ใหญ่กว่านาย” หดหายกันลงไป
การเอาผิดแรงงานต่างด้าวเถื่อน เป็นสิ่งที่ ตม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การย้อนเกล็ดเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สร้างทฤษฎี “สมคบคิด” เปิดช่องให้ทั้ง...แรงงานต่างด้าวเถื่อน และนายทุนธุรกิจผิดกฎหมาย เข้ามาทำงานและแย่งอาชีพคนไทย
รวมถึงจะต้องเอาผิดกับ เจ้าของกิจการที่เปิดรับแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้ามาทำงาน ไม่ว่าจะเป็น...ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม/รีสอร์ท ร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มคนที่คอยทำหน้าที่เป็น “นอมินี” ให้กับนายทุนต่างด้าว จะต้องโดนเอาผิดในทางการกฎหมายอย่างเด็ดขาดไปเสียด้วยกัน
แน่นอนว่า...สังคมไทยได้เข้าสู่ความเป็น “สังคมผู้สูงอายุ” ถือว่า...เราขาดแคลนแรงงานเป็นจำนวนมาก ขณะที่คนในวัยแรงงาน ต่างก็ปฏิเสธที่จะทำงานหนัก งานสกปรก หรืองานที่มีความเสี่ยงและเป็นอันตราย ดังนั้น ประเทศไทยจึงยังมีความต้องการแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย และเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องบริหารจัดการภารกิจในส่วนนี้อย่างมีกลยุทธ์
บทบาทและภารกิจของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะ ตม. ถือว่า...มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
ถึงนาที การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานอย่าง ตม. ถือได้ว่า ไม่ได้ต่ำตม...จมไปกับ “ส่วย” แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เช่นที่ใครหลายคนเคยปรามาสเอาไว้ก่อนหน้านี้อีกแล้ว!
ส่วนจะทำได้ดีได้นานแค่ไหน? เอาไว้ค่อยมาลุ้นกันต่อ!!