ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ รายงานว่า นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง (สคต.ฮ่องกง) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่มีการรายงานสถานการณ์ประท้วงจาก สคต. ฮ่องกง มาตลอดว่า การประท้วงในฮ่องกงส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นและจบลงในช่วงวันหยุดไม่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ประท้วงยืดเยื้อยาวนาน จะส่งผลต่อธุรกิจการค้าและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการย้ายฐานทางการเงินก่อน โดยเมื่อคืนวันที่ 21 กรกฎาคม มีสถานการณ์รุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสลายการชุมนุมโดยการยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตา หลังจากที่ผู้ประท้วงปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่สำนักงานประสานงานจีนแผ่นดินใหญ่ในฮ่องกง (Liaison Office) บริเวณ Sai Ying Pun ทำให้การชุมนุมบริเวณ Shun Tak Centre, Shueng Wan ซึ่งเป็นบริเวณท่าเรือ ฮ่องกง-มาเก๊า เกิดความตึงเครียดและดุเดือดมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน เกิดเหตุทำร้ายผู้คนที่สวมเสื้อดำที่เป็นกลุ่มผู้ประท้วง และเหมารวมถึงบุคคลทั่วไปที่ใส่เสื้อดำ โดยกลุ่มคนเสื้อขาวที่สถานีรถไฟฟ้า Yuen long มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 45 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทั้งนี้มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจอาจอยู่เบื้องหลังของการใช้ความรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อขาวทำร้ายคนเสื้อดำ เนื่องจากตำรวจเข้าถึงที่เกิดเหตุช้า
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ในฝ่ายผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการกระทำที่เป็นการทำลายฮ่องกง และควรหาวิธีประสานงานกับส่วนต่าง ๆ การยุบสภานิติบัญญัติ และเสนอให้มีการเลือกตั้งโดยตรง สำหรับการเลือกผู้บริหารสูงสุดและการเลือกสภานิติบัญญัติ เพื่อทำให้ฮ่องกงกลับสู่เส้นทางของสังคมที่เป็นประชาธิปไตยเสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง โดยเรียกร้องให้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติชั่วคราวขึ้น เพื่อให้ฮ่องกงสามารถกลับสู่สภาวะปกติ และต้องการให้นาง Carrie Lam ก้าวลงจากตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 15:00น. นาง Carrie Lam แถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะไม่ให้อภัยเหตุการณ์ความรุนแรงใน Yuen Long อีกทั้งยังประณามผู้ประท้วงที่เข้าไปทำลายทรัพย์สินของสำนักงานประสานงานจีนแผ่นดินใหญ่ จนได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นการท้าทายอำนาจอธิปไตยของจีน
นาง Carrie Lam กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงนั้น ไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา
ผอ.สคต.ฮ่องกง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากการประท้วงมีการยืดเยื้อนานขึ้นอาจจะส่งผลกระทบโดยรวม ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยวซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะชาวจีน ต่างหวาดกลัวและกังวลต่อสถานการณ์การเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อยลง ด้านการย้ายฐานเงินทุน นักลงทุนไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันในฮ่องกง จึงย้ายฐานการเงินออกจากฮ่องกงไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น สิงคโปร์ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการบริโภค การค้าภายในประเทศ ผู้บริโภคออกมาใช้จ่ายน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร มีจำนวนผู้มาใช้บริการน้อยลง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน ห้างร้านปิดทำการชั่วคราว เมื่อมีการประท้วงในบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตามการประท้วงนี้ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการประท้วงภายใต้ประเด็นการเมือง ประชาชนเริ่มแบ่งเป็นสองฝ่าย การชุมนุมนัดหมายเกิดขึ้นในวันหยุด และเปลี่ยนพื้นที่ไปเรื่อยๆ สามารถหลีกเลี่ยงได้
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง โทร 001-852 25259716 หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169