ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (7 สิงหาคม 2562) Facebook : Sinthorn ที่รายงานโดย Mr.Messenger ได้โพสต์ในหัวข้อ ”แบงก์ชาติ เซอร์ไพรส์ตลาด..ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตลาดหุ้นตอบรับอย่างไร?” ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงเวลาเย็นของวันดังกล่าวที่จะมีผลต่อสถานการณ์ตลาดเงิน-ตลาดทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งสำนักข่าวฯเห็นว่า มีสาระสำคัญที่น่าสนใจยิ่ง!
โดยผู้โพสต์ระบุว่า วันนี้มีการประชุม กนง. กัน ผลออกมาค่อนข้างเซอร์ไพรส์ตลาด เนื่องจากที่ประชุมมีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากเดิม 1.75% เหลือ 1.5%
เซอร์ไพรส์อย่างไร?
เพราะมาตรการสกัดเงินร้อนที่ออกมาเมื่อเดือน ก.ค. จะพบว่า แบงก์ชาติพยายามไม่ยุ่งกับเครื่องมือดอกเบี้ย สาเหตุเพราะ เป็นเครื่องมือที่มีผลต่อเศรษฐกิจมากกว่า (ทั้งสนับสนุน และเพิ่มความเสี่ยง) แต่กลายเป็นว่า ในที่สุด ก็ต้องลดดอกเบี้ยวันนี้
อะไรคือ เหตุผลของการลดดอกเบี้ย?
สาเหตุหลักๆ ก็น่าจะมีจากการที่เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณชะลอตัว และเครื่องยนต์ภาคการส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากการที่เงินลงทุนไหลเข้าไทยต่อเนื่องและทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในเอเชียหากนับตั้งแต่ต้นปี
ผลของการลดดอกเบี้ยครั้งนี้?
สิ่งแรกที่แบงก์ชาติหวังว่าเกิดขึ้นก็คือ ค่าเงินบาทควรอ่อนค่า ต่างชาติเห็นดอกเบี้ยเราต่ำแบบนี้ น่าจะมีแรงจูงใจในการเอาเงินมาพักไว้น้อยลง แต่ถามว่า จะเป็นเช่นนั้นจริงอย่างที่แบงก์ชาติหวังหรือไม่ มันมีประเด็นอื่นๆที่ต้องติดตามหลังจากนี้
อีกสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ Bond Yield จะปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุ ตรงนี้ ใครลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง ระยะยาวก็จะได้ประโยชน์จากราคาที่เพิ่มขึ้นทันที
เช่นเดียวกับกองทุน Property & REITs เนื่องจาก Yield Gap ที่เพิ่มขึ้น ก็จะมีแรงซื้อกลับมาในการลงทุนประเภท Yield Play อย่างน้อยๆก็ในระยะสั้น เพื่อรับข่าวดอกเบี้ยลง
ก่อนหน้านี้ ดร.วิรไท ผู้ว่าแบงก์ชาติ ให้ความเห็นต่อเศรษฐกิจไทยว่า GDP Growth จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 2.8% ที่ทำไว้เมื่อไตรมาส 1 ปีนี้ ได้จากภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป
เมื่อเอาความเห็นครั้งนั้น มารวมกับการตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งนี้ของแบงก์ชาติ ก็จะพบว่า ความเห็นไม่สอดคล้องกับการกระทำ
... ว่าแต่ เพราะอะไร?
ประเด็นสำคัญเลย น่าจะเป็นความเสี่ยงจากสงครามการค้า ซึ่งล่าสุดเหมือนจะกลายเป็นสงครามค่าเงิน เพราะอยู่ดีๆ ค่าเงินหยวนก็อ่อนค่ามาเกิน 7 CNY/USD ซึ่งตรงนี้ มีผลต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนแน่นอน
แต่ในมุมมองส่วนตัวนะครับ ถึงไม่มีเรื่องสงครามการค้า ท่องเที่ยวไทย ก็ดูจะไม่ใช่ Growth Engine หลักอยู่แล้ว เพราะ Capacity ในการรับนักท่องเที่ยวของเรา เต็มที่ไปแล้ว (เรื่องนี้ ไว้มาอัพเดทแยกอีกโพส) แถมจีนก็เลิกแบนกรุ๊ปทัวร์ออกไปเที่ยวเกาหลี ไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้นไปอีก
ตลาดหุ้นไทย จะตอบรับอย่างไร?
ในระยะสั้น การลดดอกเบี้ย ถือเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดน่าจะตอบรับเชิงบวก และถ้าสัปดาห์นี้ SET Index กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่บริเวณ 1,670 จุดได้ ก็อาจเห็นการปรับฐานระยะสั้นจบไปแล้ว และมุ่งน่าขึ้นทดสอบ 1,700 และ 1,740-1,750 จุด ตามลำดับ
ส่วนจะไปได้ไกลกว่านั้นหรือไม่ คงต้องขึ้นกับสหรัฐฯ และจีน ว่าจะเอายังไงกันต่อนะครับ
ขอบคุณที่มาข้อมูล:
- FB:FINNOMENA/SINTHORN และ Mr.Messenger รายงาน
หัวข้อ:แบงก์ชาติ เซอร์ไพรส์ตลาด ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตลาดหุ้นจะตอบรับอย่างไร?